การลอบสังหาร ‘ชาลี เคิร์ก’ สะท้อนรอยร้าวการเมืองอเมริกัน และข้อถกเถียงเรื่องครอบครองปืน

การลอบสังหาร ‘ชาลี เคิร์ก’ สะท้อนรอยร้าวการเมืองอเมริกัน และข้อถกเถียงเรื่องครอบครองปืน

‘ชาร์ลี เคิร์ก’ (Charlie Kirk) นักเคลื่อนไหวการเมืองวัย 31 ปี ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มนักศึกษาสายอนุรักษนิยม Turning Point USA (TPUSA) ถูกยิงเสียชีวิตระหว่างร่วมกิจกรรม ‘The American Comeback Tour’ ที่มหาวิทยาลัยในรัฐยูทาห์ วันที่ 10 กันยายน 2025 เหตุเกิดต่อหน้าผู้เข้าร่วมราว 3,000 คน ขณะนี้ทางการสหรัฐฯ รวมถึง FBI อยู่ระหว่างสืบสวนติดตามผู้ก่อเหตุ

การเสียชีวิตของเขาปลุกชนวนการถกเถียงขึ้นมาในสังคมอเมริกัน เนื่องจากเคิร์กเป็นพันธมิตรใกล้ชิดที่สนับสนุนประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และเป็นผู้ผลักดันสิทธิการครอบครองอาวุธปืน โดยเขาเคยกล่าวเมื่อปี 2023 ว่า “การสูญเสียจากอาวุธปืนบางกรณีถือว่าคุ้มค่า หากมันคือการปกป้องสิทธิบทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งที่สอง” ฝ่ายหนึ่งมองว่าเป็นโศกนาฏกรรมจากปืน ขณะที่อีกฝ่ายย้ำว่าไม่ควรโยงเหตุฆาตกรรมกับสิทธิการครอบครองอาวุธ

 

เกิดอะไร? เมื่อ 10 กันยายน ที่มหาวิทยาลัยในรัฐยูทาห์

การสังหารอย่างอุกอาจเกิดขึ้นระหว่างกิจกรรม ‘The American Comeback Tour’ ของกลุ่ม TPUSA ที่จัดขึ้นในมหาวิทยาลัย Utah Valley เมืองโอเรม รัฐยูทาห์ โดยเคิร์กทำหน้าที่เป็นวิทยากร 

ขณะที่เขากำลังปราศรัยกลางแจ้งท่ามกลางผู้มาร่วมกิจกรรมราว 3,000 คน อยู่ดีๆ ก็มีเสียงปืนดังขึ้น ทำให้เกิดความโกลาหลไปทั่วบริเวณ จากคลิปวิดีที่จับภาพเหตุการณ์ตอนเกิดเหตุไว้ได้ ได้ยินเสียงปืนในช่วงประมาณเที่ยงวันตามเวลาท้องถิ่น จากนั้นสังเกตเห็นว่าเคิร์กเอามือจับที่คอของตัวเอง ก่อนจะล้มลงจากเก้าอี้ ทีมรักษาความปลอดภัยรีบเข้าไปให้ความช่วยเหลือ และนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตเขาไว้ได้ 

หลังเหตุการณ์ FBI และตำรวจท้องถิ่น เข้าควบคุมสถานการณ์และเปิดการสอบสวน โดยจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของผู้ก่อเหตุหรือแรงจูงใจ โฆษก FBI ระบุสั้น ๆ ว่า “การสืบสวนยังอยู่ในขั้นต้น และขอให้ประชาชนอย่าด่วนสรุป” เหตุการณ์ดังกล่าวจึงยังคงเป็นประเด็นที่ถูกจับตาอย่างใกล้ชิดในสังคมอเมริกัน

 

เขาคือใคร? ชาลี เคิร์ก นักเคลื่อนไหวรุ่นใหม่สายอนุรักษนิยมสุดโต่ง

ชาลี เคิร์ก ถูกจับตามองในฐานะนักเคลื่อนไหวการเมืองรุ่นใหม่ที่มีบทบาทโดดเด่น และเป็นผู้สนับสนุนคนสำคัญของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เขามักได้รับเชิญไปเยือนทำเนียบขาวอยู่หลายครั้ง และมีบทบาทใกล้ชิดกับทีมการเมืองของทรัมป์อย่างต่อเนื่อง

เคิร์กเติบโตในครอบครัวฐานะดี พ่อของเขาเป็นสถาปนิก อาศัยอยู่ในชานเมืองรัฐอิลลินอยส์ หลังจบการศึกษาระดับมัธยม เขาเคยสมัครเข้าเรียนในวิทยาลัยย่านชิคาโก แต่ลาออกมาก่อนสำเร็จการศึกษา เพื่อหันมาทำกิจกรรมทางการเมืองเต็มตัว

ปี 2012 ขณะมีอายุเพียง 18 ปี เขาร่วมกับนักเคลื่อนไหวรุ่นใหม่ที่มีแนวคิดเดียวกัน ก่อตั้งกลุ่มนักศึกษาสายอนุรักษนิยม Turning Point USA (TPUSA) ขึ้นมา โดยมีเป้าหมายเผยแพร่อุดมการณ์ฝ่ายขวาในมหาวิทยาลัยที่ส่วนใหญ่มีแนวคิดเสรีนิยม 

ภายในเวลาไม่กี่ปี TPUSA เติบโตอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นเครือข่ายใหญ่ในวิทยาลัยทั่วประเทศ และผลักดันให้เคิร์กขึ้นมาเป็นหนึ่งใน ‘ตัวแทนคนรุ่นใหม่ฝ่ายขวา’ เขาได้รับเชิญไปพูดในเวทีระดับชาติ รวมถึงการประชุมพรรครีพับลิกัน (Republican National Convention) ปี 2020 ซึ่งยิ่งตอกย้ำความใกล้ชิดของเขากับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์

อย่างไรก็ตาม เส้นทางของเคิร์กเต็มไปด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์ หลายสำนักข่าวและนักวิชาการหลายคน มองว่าเขาอยู่ในกลุ่ม ‘ขวาจัด’ (far-right) จากบทบาทการขับเคลื่อนวาระทางวัฒนธรรมที่เข้มข้น การคัดค้านสิทธิความหลากหลายทางเพศ การโจมตีขบวนการ ‘วัฒนธรรมตื่นรู้’ (woke culture) และการสนับสนุนสิทธิการครอบครองอาวุธปืนอย่างแข็งขัน

 

สะท้อนรอยร้าวการเมืองอเมริกัน

การเสียชีวิตของชาลี เคิร์ก ไม่เพียงเป็นโศกนาฏกรรมส่วนบุคคล แต่ยังกลายเป็นเชื้อไฟในสมรภูมิการเมืองอเมริกันอีกครั้ง ฝ่ายที่สนับสนุนกฎหมายควบคุมอาวุธปืนมองว่านี่คือตัวอย่างชัดเจนว่าความรุนแรงจากปืนยังคงเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องแก้ไข ขณะที่ฝ่ายอนุรักษนิยมกลับโต้ว่าเหตุฆาตกรรมไม่ควรถูกนำมาใช้เป็นข้ออ้างในการลดทอนสิทธิการครอบครองอาวุธ ซึ่งได้รับการคุ้มครองโดยรัฐธรรมนูญ

ความขัดแย้งดังกล่าวสะท้อนรอยร้าวทางการเมืองที่ฝังลึกในสังคมสหรัฐ ตั้งแต่การตีความ บทแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 2 (Second Amendment) ไปจนถึงสงครามวัฒนธรรมในมหาวิทยาลัยและสื่อสังคมออนไลน์ กรณีของเคิร์กจึงไม่ใช่เพียงเหตุสลดที่เกิดขึ้นกับบุคคลหนึ่ง แต่เป็นภาพสะท้อนความแตกแยกที่ยังคงแบ่งฝั่งแบ่งฝ่าย และยากจะหาทางออกร่วมกันได้ในอนาคตอันใกล้

.

PattananWriterPattanan

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง