วันที่ 7 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เรื่องร่างพระราชบัญญัติรายจ่ายงบประมาณประจำปี 2563 ผ่านการพิจารณาจาก ครม.เรียบร้อยแล้ว และจะส่งให้สภาในวันนี้่ เพื่อให้มีเวลาในการพิจารณาตามที่ฝ่ายรัฐสภากำหนดไว้ 17-18 ต.ค.นี้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ในเรื่องของงบประมาณไม่อยากให้ทุกคนมองว่ายอดที่เอามาแถลงมาชี้แจงเป็นตามที่ปรากฎตามสื่อตามโซเชียล เพราะยังเป็นขั้นต้นที่จะทำงบประมาณขึ้นไป และจะต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาตั้ง 2 จะได้มากได้น้อย ลดลงเพิ่มขึ้นป็นพิจารณาของคณะกรรมาธิการทั้งสิ้น
ด้าน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.เห็นชอบการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ โดยมี กมธ.63 คน เป็นสัดส่วนของ ครม. 15 คน ส.ส.ฝ่ายค้าน 24 คน และ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล 24 คน ในส่วนของ ครม.กำหนดรายชื่อหลัก 3 คน คือ นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และนายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง ส่วนอีก 12 คน จะมีการพิจารณาในลำดับต่อไป
ที่ประชุมเห็นตรงกันว่า ผู้ที่จะมาเป็น กมธ.วิสามัญต้องมีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาอย่างแม่นยำ และต้องมีเวลาเข้าประชุม เพราะอาจจะต้องลงมติในมาตราใดซึ่งถ้าไม่อยู่อาจจะมีปัญหาเกิดขึ้นได้
ทั้งนี้ ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 กรอบวงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท
สัปดาห์ที่แล้ว นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ข้อมูลว่า หน่วยราชการต่างๆ ส่งคำของบประมาณรวมทั้งสิ้น 5.1 ล้านล้านบาท แต่รัฐบาลสามารถดำเนินการได้อยู่ที่ 3.2 ล้านล้านบาท แยกเป็นงบประมาณด้านยุทธศาสตร์ 7 ด้าน
1.ด้านความมั่นคง 428,219 ล้านบาท 2.ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน 380,418 ล้านบาท 3.ด้านการพัฒนา และเสริมสร้างศักยภาพและทรัพยากรมนุษย์ 570,528 ล้านบาท 4.ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม 766,269 ล้านบาท
5.ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 118,576 ล้านบาท 6.ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบ การบริหารจัดการภาครัฐ 504,657 ล้านบาท และ 7.ด้านการค่าดำเนินการภาครัฐ 431,336 ล้านบาท
