gpf-2024-target

กบข.ตั้งเป้าปี 67 สร้างผลตอบแทนมากกว่า 1.46% จับตาสารพัดปัจจัยเสี่ยง ‘สงคราม-สหรัฐเลือกผู้นำ-ดอกเบี้ยสูง’

การเงิน

‘ทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์’ เลขาธิการ กบข. ตั้งเป้าผลตอบแทนปี 67 มากกว่า 1.46% ประเมินสถานการณ์การลงทุนปีนี้ ต่างประเทศสงครามยังระอุ-สหรัฐเลือกผู้นำใหม่-ดอกเบี้ยยังคงสูง ฝั่งไทยจับตาการเบิกจ่ายงบประมาณ-นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ

‘ทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์’ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า กบข. ได้กำหนดแผนงานวางรากฐานการบริหารกองทุน ในการขับเคลื่อน กบข.ให้เป็นกองทุนที่มีความมั่นคง สร้างผลตอบแทนการลงทุนที่ดีในระยะยาว มากกว่าอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 10 ปี บวก 2% ต่อปี และเพิ่มระดับความไว้วางใจของสมาชิกที่มีต่อ กบข.เพื่อให้สมาชิกมุ่งสู่การมี ‘Freedom for Living เกษียณมีสุข’

โดยภารกิจแรกที่จะดำเนินงาน คือ การทบทวนความเพียงพอของเงิน ณ วันเกษียณ โดยเพิ่มตัวแปรหนี้สิน การมีอายุยืนยาวของคนไทย และระดับความเพียงพอของสมาชิกแต่ละกลุ่มอาชีพเข้ามาศึกษาเพิ่มเติม เพื่อให้ระดับความเพียงพอมีค่าเป็นปัจจุบันมากที่สุด และนำผลศึกษามาปรับปรุงแผนการจัดสรรการลงทุนของ กบข.

ภารกิจที่สอง คือ การศึกษาเพิ่มทางเลือกในการรับผลตอบแทนรูปแบบอื่นให้กับสมาชิก โดยทางเลือกในการรับผลตอบแทนรูปแบบอื่นออกแบบสำหรับส่วนเพิ่มเงินออมที่สมาชิกเพิ่มเติมจากภาคบังคับ เนื่องจากความต้องการของสมาชิกในการออมเพิ่มนั้นอาจมีลักษณะผลตอบแทน

อาทิ ต้องการรับเงินปันผลระหว่างทาง ต้องการทางเลือกในการออมเพิ่มเติม และอาจรวมถึงสิทธิประโยชน์อื่นๆ เช่น สิทธิ์ในการใช้บริการ Retirement Home & Care เป็นต้น ซึ่งจำเป็นต้องมีการศึกษาความเป็นไปได้ และอาจต้องมีการปรับปรุงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้

นอกจากนี้ เนื่องด้วยการเพิ่มขึ้นของกลุ่มประชากรสูงวัย (Aging Society) จะมีส่วนในการปรับปรุงการลงทุนในอนาคตด้วย

สำหรับผลการดำเนินงานปี 2566 กบข. สามารถสร้างผลตอบแทนได้ 1.46% (หลังหักค่าใช้จ่าย) โดยได้รับผลดีจากการลงทุนทั้งในและต่างประเทศในตราสารหลากหลายประเภท และการจัดการติดตามการลงทุนอย่างใกล้ชิด

ส่วนปี 2567 นี้ มีปัจจัยเสี่ยงที่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับกลยุทธ์การลงทุนในระยะสั้นได้ทันการณ์ ทั้งสงครามตะวันออกกลาง ความขัดแย้งอิสราเอล-อิหร่าน และความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน ผลการเลือกตั้งและแนวนโยบายในหลายประเทศ

โดยเฉพาะประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ และแนวนโยบายการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน รวมไปถึงอัตราดอกเบี้ยที่คงอยู่ในระดับสูงในช่วงที่ผ่านมา จะลดทอนความสามารถในการใช้จ่ายภาคครัวเรือนลดลง เงินเฟ้อปรับตัวลดลงแบบชะลอตัวและยังคงสูงกว่าเป้าหมายระยะยาวของธนาคารกลาง

ส่วนเศรษฐกิจไทย ยังต้องติดตามการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ทั้งนี้มีความเชื่อมั่นในการทยอยฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว และการกดดันด้านเงินเฟ้อลดลง โดยปีนี้มีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าปี 2566 ที่ผ่านมา

TODAY BizviewWriterTODAY Bizview
TODAY Bizview by workpointTODAY
ข่าว สาระ ความรู้ ด้านธุรกิจในประเทศและต่างประเทศที่ออกแบบมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง