‘สารัชถ์ รัตนาวะดี’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ และประธานกรรมการบริหาร เอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส กล่าวบนเวทีในงานสัมมนาใหญ่ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในหัวข้อ ‘Future Thailand : Energizing Society’ ว่า ธุรกิจด้านพลังงานมีบทบาทที่สำคัญในด้านความมั่นคงของประเทศ ย้อนกลับไป 30 ปีที่แล้วเราเริ่มมาจากโรงไฟฟ้าถ่านหินและเปลี่ยนมาสู่ก๊าซธรรมชาติ
ซึ่งปัจจุบันธุรกิจโรงไฟฟ้า GULF มีการลงทุนทั้งในประเทศและในต่างประเทศค่อนข้างเยอะ เช่น ในช่วงโควิดมีการเข้าไปซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งทะเลในประเทศเยอรมนี มีกำลังการผลิตเกือบ 500 เมกะวัตต์ รวมถึงในประเทศอังกฤษ 1,500 เมกะวัตต์ และยังมีการลงทุนในโรงไฟฟ้าแก๊สธรรมชาติที่ชิคาโก้อีกด้วย
สาเหตุที่ต้องไปลงทุนในต่างประเทศเยอะๆ ก็เพื่อที่จะไปดูว่าเขาพัฒนาไปถึงไหนและนำความรู้ที่ได้กลับมาพัฒนาประเทศ ต่อ ที่สำคัญปัจจุบันความต้องการในการใช้พลังงานสะอาดก็มีมากขึ้นด้วย เทคโนโลยีต่างๆ ก็ดีขึ้นทำให้ผลิตไฟฟ้าได้มากขึ้นและมีราคาถูกลงได้
[ ทำธุรกิจหลากหลายที่อิมแพคต่อประเทศ ]
GULF พยายามที่จะตามให้ทันเทรนด์ต่างๆ ของโลกและมองหาธุรกิจใหม่ๆ ที่ตอบสนองกับอนาคตของบริษัทเพราะด้วยเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปเยอะทำให้ธุรกิจหลายอย่างต้องปรับตัว ซึ่งปัจจุบัน GULF เป็นบริษัทพลังงานชั้นนำของไทยที่ลงทุนในธุรกิจหลักๆ ดังนี้
1. ธุรกิจพลังงาน
โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม (Cogeneration) – ผลิตไฟฟ้าและไอน้ำเพื่อจำหน่ายให้ภาครัฐและภาคเอกชน
โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) – ลงทุนในพลังงานลม, พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังน้ำทั้งในไทยและต่างประเทศ
โรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ – ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าหลายแห่ง เช่น โรงไฟฟ้า IPP และ SPP
2. ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน
ธุรกิจระบบส่งและจำหน่ายไฟฟ้า – ถือหุ้นในโครงการพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าระหว่างประเทศ
ธุรกิจท่าเรือและโลจิสติกส์ – ลงทุนในโครงการพัฒนาท่าเรือมาบตาพุด (ร่วมทุนกับ PTT และ GPSC)
ธุรกิจโทรคมนาคม – ถือหุ้นใน Intouch Holdings และ AIS ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่ของไทย
3. ธุรกิจพลังงานใหม่และดิจิทัล
พลังงานไฮโดรเจน – ร่วมมือกับบริษัทต่างชาติศึกษาการพัฒนาไฮโดรเจนเป็นพลังงานสะอาด
ธุรกิจศูนย์ข้อมูล (Data Center) – ร่วมลงทุนกับ Singtel สร้างดาต้าเซ็นเตอร์ในไทย
4. ธุรกิจการเงินและการลงทุน
แพลตฟอร์มดิจิทัล – ร่วมมือกับ Binance ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลก เปิดตัวแพลตฟอร์ม Binance THในประเทศไทย
ซึ่งอย่างสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลกกำลังพูดถึงกันอย่างมาก โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่จะมีการออกกฎเกณฑ์ต่างๆ ถ้าไทยเราไม่ทำเมื่อถึงเวลาเงินก็จะไหลออกและเราก็จะช้ากว่าเขาด้วย
โดยรวมแล้ว GULF มีการกระจายการลงทุนอย่างกว้างขวางทั้งในและต่างประเทศ ไม่ได้จำกัดแค่ธุรกิจพลังงานแต่ยังขยายไปสู่โครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีใหม่ๆ ด้วย
[ หนุนรัฐบาลทดลองใช้คริปโทฯ ที่ภูเก็ต ]
รัฐบาลจะมีการทดลองใช้คริปโทฯ ซื้อสินค้าที่ภูเก็ต ทาง GULF มีการพยายามเข้าไปศึกษา และมองเห็นว่าสิ่งนี้จะทำให้เกิด 1. Fintech Hub ของเอเชีย อันที่ 2.คือจะเกิดเป็น Digital Hub และจะทำให้ภูเก็ตเป็นบล็อกเชนของเอเชียได้
ซึ่งการนำคริปโตมาใช้อาจเริ่มจากการซื้อสินค้าทั่วๆ ไปในภูเก็ต ถัดไปอาจเป็นการโอนเงินเข้าออกที่จะถูกกว่าระบบธนาคาร และในอนาคตถ้าไปพัฒนาไปถึงอาจจะกลายเป็น Value Payment ที่ใช้ซื้อบ้าน ซื้อรถยนต์ในภูเก็ตได้
[ อนาคตของไทยยังมีหวัง แต่ท่องเที่ยวต้องทำให้มากกว่านี้ ]
ในด้านของธุรกิจท่องเที่ยว เกษตรกรรม รวมถึงธุรกิจเฮลท์แคร์ของไทยเรายังไปต่อได้ เพราะฉะนั้นไทยยังมีความหวังและอนาคตที่ดี แต่ในขณะเดียวกันปัญหาในประเทศที่มีอยู่ก็คงต้องค่อยๆ แก้ไปไม่ว่าจะเป็นหนี้สาธารณะ หนี้ครัวเรือน ก็เป็นเรื่องที่ต้องให้รัฐบาลเข้ามาช่วยแก้ไข รวมถึงหลายๆ ฝ่ายด้วย ถ้าช่วยกันเเล้วเศรษฐกิจดีขึ้นได้ทุกคนก็จะดีขึ้นด้วย
แต่เรื่องการท่องเที่ยวถ้ายังทำได้แค่นี้ก็คงจะอยู่ได้แค่นี้ต่อไป เหมือนที่อดีตนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน เคยพูดไว้ว่าทำไม ‘เทย์เลอร์ สวิฟต์’ ไม่มาไทย ทำไมไม่มีการแข่งขัน F1 ในไทยบ้าง ในขณะที่ประเทศอื่นๆ เขามีกันหมด
“ในอดีตไทยเคยเป็นมาตรฐานให้คนอื่นทำตาม แต่ตอนนี้สวนทางเพราะทุกคนก็ขยับมาเท่าหรือแซงหน้าไปแล้ว ดังนั้นมองว่าปัญหาก็มีอยู่และเป็นเรื่องพื้นฐานของประเทศก็ต้องแก้กันไป วันหนึ่งเราก็จะเป็นคนที่ถูกลืมถ้าเราไม่ยอมปรับตัว”
ทั้งนี้ ปัจจุบันเกี่ยวกับการท่องเที่ยวรัฐบาลก็มีการพัฒนาจะทำ Entertainment Complex ซึ่งมีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและคัดค้านก็ต้องมาดูว่าสุดท้ายแล้วอะไรที่ดีกับเศรษฐกิจบ้าง เพราะสังคมและเศรษฐกิจมันไม่หยุดรอเราและยังคงเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ
[ การลงทุนของ GULF ในปี‘68 ]
สำหรับแนวโน้มการลงทุนธุรกิจปีนี้ GULF กล่าวว่า มีการลงทุนเยอะ เพราะมีการลงทุนในดาต้า เซ็นเตอร์ด้วย และลงทุนในต่างประเทศด้วยหลายหมื่นล้านบาท ขณะที่สหรัฐฯ เป็นตลาดใหญ่ที่ดูอยู่ ซึ่งเรามีโรงไฟฟ้าอยู่แล้วที่ชิคาโก้ การขยายต่อมีโอกาสค่อนข้างสูง ยอมรับว่า จะปิดดีลใหญ่ลักษณะ M&A เบื้องต้นแต่ละโรงฯ ไม่ต่ำกว่า 1,000 เมกะวัตต์
ส่วนเรื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เป็นเทคโนโลยีใหม่ เห็นว่าประเทศไทยก็กำลังดูอยู่ และคิดว่าเรื่องของนิวเคลียร์น่าจะเป็นเรื่องของรัฐบาล เอกชนไม่ควรลงทุน มีเงื่อนไขเยอะ เหมาะกับเป็นภาครัฐที่จะสามารถเข้ามาบริหารจัดการได้ดีกว่า โดย GULF ทำเท่าที่มีอยู่ให้ดีก่อน เน้นดาต้า เซ็นเตอร์ ซึ่งเราจะขยายอีกหลายโครงการ










