‘Hospital Playlist’ ซีรีส์มิตรภาพฉบับเพื่อนหมอสุดอบอุ่นใจ ที่พร้อมบอกเล่าปัญหาในวงการแพทย์ได้แบบเบาๆ

หลายคนติดใจ Hospital Playlist ด้วยเพลงเพราะๆ รวมถึงเรื่องราวความรักและมิตรภาพ นอกจากนั้น Hospital Playlist ยังเป็นซีรีส์ที่สะท้อนให้เห็นชีวิตหมอและปัญหาที่ต้องพบเจอในวงการการแพทย์อย่างสมจริงที่สุดเรื่องหนึ่ง ที่ทำให้เราอินได้โดยง่าย เพราะหลายปัญหาหน้าตาคุ้นๆ เหมือนเจอได้ในบ้านเรา
ด้านมืดของวงการการแพทย์
ตลอดทั้งซีซั่น 1 และ 2 เราได้เห็นมุมที่ไม่สวยงามของวงการแพทย์ ทั้งหมอที่รักษาเพื่อเพิ่มชื่อเสียงให้ตัวเองแบบไม่สนสวัสดิภาพของคนไข้ สนใจแต่เงิน หรือในซีซั่นนี้ที่แม้หมอจะวินิจฉัยถูกต้องตามตำรา แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจว่าอาจจะมีหนทางอื่นในการรักษาที่อาจจะตรงกับความต้องการของผู้ป่วยมากกว่า ทำให้เห็นว่าชีวิตของคนไข้เปราะบางแค่ไหน เพราะคำวินิจฉัยประโยคเดียวของหมอ สามารถเปลี่ยนชีวิตคนได้ทั้งชีวิต

การบริจาคอวัยวะที่ต้องลุ้นเสมอ
ในซีรีส์มีหลายตอนที่เราได้เห็นความลำบากของการรับบริจาคอวัยวะ นอกจากจะมีผู้บริจาคน้อยแล้ว ถ้าญาติไม่ยินยอมก็ไม่สามารถนำอวัยวะของผู้บริจาคไปได้ หรือการที่แม้จะมีคนในครอบครัวที่อวัยวะเข้ากันได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะยินดีบริจาคให้ และแม้ในเรื่องราวจะได้เห็นคนโชคดีมากมายที่ได้รับการปลูกถ่าย แต่ยังมีอีกหลายคนต้องจากไปเพราะไม่ได้รับการบริจาค
การขาดบุคลากรทางการแพทย์
ใต้ความตลกของการที่อาจารย์หมอแย่งตัวหมอคยออุลไปช่วยทำผ่าตัด หรือความสนุกกับการลุ้นให้อันจองวอน กุมารศัลยแพทย์คนเดียวของโรงพยาบาลไม่ให้ไปบวช ซ่อนปัญหาของการขาดบุคลากรทางการแพทย์อยู่โดยเฉพาะในสาขาผ่าตัดที่ยาก การทำงาน และต้องเสี่ยงต่อการโดนฟ้อง ซึ่งมีผลกระทบให้คนไม่อยากเป็นหมอ หรือที่เรียนจบแล้วต้องถอดใจไปก็มี

ความเหลื่อมล้ำกับการเข้าถึงการรักษา
ความใจดีของหมออันจองวอนที่ทำตัวเป็น ‘คุณพ่อขายาว’ คอยให้เงินสนับสนุนการรักษาคนไข้ยากไร้ เตือนให้เห็นว่ามีคนไข้อีกมายมายที่ต้องเป็นทุกข์กับการไม่มีเงินรักษา และสวัสดิการของรัฐก็ไม่ครอบคลุมถึงการรักษาทั้งหมด ในขณะที่เศรษฐีในวอร์ด V.I.P. สามารถจ่ายค่ารักษาหลายล้านด้วยเงินสด
หมอดีๆ ก็ต้องหวาดระแวงกับการโดนฟ้อง
ถึงแม้เราจะได้ซาบซึ้งกับเรื่องราวของหมอที่ทุ่มเทและคนไข้ที่ซึ้งน้ำใจหมอเป็นส่วนใหญ่ แต่เราก็ได้เห็นอยู่หลายซีน ว่าใต้ความใจดีของคุณหมอมีความกลัวโดนฟ้องหากผลการรักษาออกมาไม่ดี แค่พวกเขาต้องเอาชนะมันเพราะหากมัวแต่กลัวก็จะรักษาต่อไม่ได้

แต่ไม่ว่าประเด็นไหน Hospital Playlist ก็ยังคงถ่ายทอดเรื่องได้อย่างสบายๆ ไม่มีการเค้นอารมณ์หรือนำเสนอแบบหวือหวาให้ผู้ชมไปหลุดไปโฟกัสอยู่แต่อารมณ์ ซึ่งการเล่าแบบนี้ยิ่งทำให้เราเห็นถึงปัญหาเหล่านี้ได้อย่างชัดเจนและชวนให้ขบคิดถึงทางแก้ และทำให้เรายิ่งคิดว่าเมื่อไหร่หนอที่เราจะได้เห็นละครไทยที่พูดถึงปัญหาในวิชาชีพต่าง ๆ ได้อย่างจริงใจแบบโนดราม่าเสียที รับชม Hosptial Playlist ได้ทุกคืนวันพฤหัสทาง Netflix










