ครม.อนุมัติวงเงินประกันรายได้ ข้าว-ยางพารา
วันที่ 30 พ.ย. 2564 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติจัดสรรวงเงิน สำหรับใช้ในโครงการโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2564/65 เพิ่มเติมอีก 76,080.95 ล้านบาท แบ่งเป็นวงเงินจ่ายชดเชยส่วนต่างให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว 74,569.31 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 1,511.64 ล้านบาท
ที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2564 มีมติอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณ สำหรับใช้ในโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2564/65 และมาตรการคู่ขนานโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2564/65 วงเงินจ่ายขาดเบื้องต้นรวม1.8 หมื่นล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นวงเงินสำหรับโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2564/65 เป็นจำนวนเงิน 1.3 หมื่นล้านบาท
“นายกฯ ในฐานะประธานบอร์ด นบข. ต้องการเห็นเกษตรกรมีรายได้จากการจำหน่ายข้าวเปลือกในราคาที่เหมาะสม ป้องกันความเสี่ยงในการจำหน่ายผลผลิต และช่วยเกษตรกรในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัวจากสถานการณ์ โควิด-19 ขณะนี้ เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวตามนโยบายของรัฐที่แถลงต่อรัฐสภาไว้” นายธนกร กล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม.อนุมัติวงเงิน 54,972.72 ล้านบาท สำหรับโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 โดยจ่ายเงินช่วยเหลือค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพให้ชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่/ครัวเรือน หรือไม่เกินครัวเรือนละ 20,000 บาท
ที่ประชุม ครม. ยังอนุมัติวงเงินสำหรับใช้ในโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางพารา วงเงิน 10,065.69 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
สำหรับการจัดสรรวงเงินเพิ่มเติม สำหรับใช้ในโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2564/65 และโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางพารา ระยะที่ 3 ดังกล่าว นั้น
ปัจจุบันได้มีประกาศคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ เรื่อง กำหนดอัตราชดเชยค่าใช้จ่ายหรือการสูญเสียรายได้ของหน่วยงานของรัฐในการดำเนินกิจกรรม มาตรการ หรือโครงการตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 28 (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2564 ลงวันที่ 24 พ.ศ.2564 กำหนดให้อัตรายอดคงค้างรวมทั้งหมดของภาระที่รัฐต้องรับชดใช้ค่าใช้จ่ายหรือการสูญเสียรายได้ในการ










