วันที่ 21 มิ.ย. 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการตั้งเป้าเปิดประเทศภายใน 120 วัน ว่ากระทรวงสาธารณสุขรับนโยบายจากนายกรัฐมนตรีเพื่อนำมาเตรียมความพร้อมและ และในอีก 1-2 วัน จะมีการประชุมเตรียมแนวทางรองรับหากเกิดสถานการณ์ เช่น การแพร่ระบาดหลังเปิดประเทศ การบริหารเตียง แพทย์ พยาบาล ยารักษา รวมถึงการกระจายวัคซีนให้กับกลุ่มเป้าหมาย พร้อมเตรียมพิจารณาปัจจัยและประเมินความคุ้มค่ากับปัญหาปากท้อง รวมถึงโอกาสในการสร้างรายได้ของประชาชน
ส่วนความกังวลหลังเปิดประเทศที่อาจทำให้มีผู้นำเชื้อหลุดเข้ามา ยืนยันว่า “จะไม่มีเชื้อหลุด หากเข้ามาในช่องทางที่ถูกต้อง เพราะเข้าไปอยู่ในสถานที่กักกัน” แต่ที่ทำให้เกิดปัญหา คือกลุ่มที่ลักลอบเข้ามา ซึ่ง ศบค. ได้สั่งการหน่วยงานความมั่นคงให้ดูแลโดยเฉพาะตามแนวชายแดนให้มากที่สุดแล้ว
พร้อมระบุว่า ประเทศญี่ปุ่นสนับสนุนนโยบาย 120 วัน เปิดประเทศของไทยเช่นกัน และจะบริจาควัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าให้ไทยในเดือน ก.ค. นี้ ส่วนจำนวนเท่าไหร่ยังอยู่ระหว่างเจรจา และรอการลงนามเอกสารตอบรับวัคซีน คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 24 มิ.ย.นี้
“การบริจาควัคซีนของญี่ปุ่นถือเป็นสัมพันธไมตรีและมิตรภาพระหว่างสองประเทศ ช่วยให้ประเทศไทยสามารถกระจายวัคซีนได้เพิ่มมากขึ้น และเป็นยี่ห้อเดียวกับที่ประเทศไทยใช้ ทำให้สามารถนำมาฉีดเข็มแรกได้อย่างเต็มที่และมีความคล่องตัวมากขึ้น นอกจากนี้ญี่ปุ่นมีการลงทุนในประเทศไทยจำนวนมาก หลังผ่านพ้นสถานการณ์โควิดการลงทุนและค้าขายระหว่างสองประเทศก็จะแน่นแฟ้นกว่าเดิม” นายอนุทินกล่าว
นายอนุทิน ระบุอีกว่า สำหรับการกระจายวัคซีนโควิด 19 เป็นไปตามสูตรของ ศบค. เพื่อให้เกิดเป็นบรรทัดฐาน เมื่อวัคซีนส่งไปถึงแต่ละจังหวัด คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครจะพิจารณาจัดสรรอย่างเหมาะสมแต่ละพื้นที่ต่อไป โดยวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าทยอยส่งมาทุกสัปดาห์ ขอให้แต่ละจังหวัดเมื่อรับวัคซีนไปแล้วกระจายและฉีดอย่างเหมาะสม เพื่อให้สามารถฉีดได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ขาดช่วง ส่วนกรณีหนังสือของปลัดกระทวงมหาดไทยขอให้กระทรวงสาธารณสุขพิจารณาสนับสนุนวัคซีนให้บริษัทเอกชน ทางปลัดกระทรวงมหาดไทยได้มีการยกเลิกหนังสือดังกล่าวไปแล้ว










