คณะรัฐมนตรี มีมติพยุงราคาข้าว ให้ชาวนาชะลอขายข้าวเปลือกหอมมะลิ แทรกแซงให้สินเชื่อตันละ 12,000 บาท
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (7 พ.ย. 66) โดยสรุปว่า ครม. มีโครงการชะลอสินเชื่อขายข้าวเปลือกนาปี ความชื้น 25 % ให้เก็บเป็นเวลา 5 เดือน โดยที่รัฐบาลจะแทรกแซงให้สินเชื่อ ตันละ 12,000 บาท และให้ค่าเก็บรักษาคุณภาพข้าว ตันละ 1,500 บาท เป้าหมาย 3 ล้านตัน
และมีมติให้สินเชื่อเพื่อให้สถาบันการเกษตร ซื้อแทรกแซงตลาด โดยซื้อในราคานำร่อง ข้าวเปลือกหอมมะลิ ความชื้น 25% ราคาตันละ 12,200 บาท เป้าหมาย 1 ล้านตัน ซึ่งทั้ง 2 โครงการใช้วงเงินรวม 10,600 บาท ที่เหลือเป็นสินเชื่อ 44,437 ล้านบาท
ส่วนโครงการสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพข้าว ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ ใช้งบประมาณ 5.6 หมื่นล้านบาท แต่เรื่องนี้ยังไม่ผ่านคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ หรือ กบข. ซึ่งจะมีการประชุมกบข. ในวันที่ 10 พ.ย.นี้
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ในรอบฤดูกาลผลิตหน้า นโยบายแทรกแซงราคาแบบนี้ รัฐบาลจะเปลี่ยน แต่ต้องหารือกับเกษตรกรชาวนาก่อนว่า จะเปลี่ยนประสิทธิภาพการผลิตหรือนำเทคโนโลยีมาใช้อย่างไร ซึ่งทั้งหมดเป็นแผนใหญ่ และรัฐบาลเข้ามาในช่วงการเก็บเกี่ยวแล้ว จึงไม่สามารถเปลี่ยนวิธีการทัน และชาวนายังมีรายได้ต่ำเกินไป จึงจำเป็นต้องช่วยเหลืออยู่
ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ยืนยันว่า โครงการสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพข้าว ไร่ละ 1,000 บาท จะให้เกษตรกรแน่นอน พร้อมยอมรับว่า ราคาข้าวในปัจจุบันควรมีราคาสูงกว่านี้ ซึ่งรัฐบาลพยายามหาทางออกในเรื่องนี้ ส่วนการตรึงราคา หรือให้ราคาที่เหมาะสมยังไม่ได้พูดคุยกับผู้ส่งออกอีกส่วนหนึ่ง
ด้าน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เชื่อว่า มติครม.ในวันนี้ จะมีผลต่อราคาข้าว เพื่อช่วยประคองไม่ให้ราคาข้าวตกลงไป อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังทำงานไม่ถึง 2 เดือน และราคาข้าวมีแนวโน้มต่ำลง ซึ่งค่าเก็บเกี่ยว 1,000 บาทต่อไร่ รัฐบาลไม่ได้ละเลย ซึ่งจะใช้กลไก ธกส. เป็นหลักในการช่วยเหลือ
