ผอ.โครงการชลประทานนครราชสีมา ยืนยัน อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่างยังไม่แตก หลังทางจ.นครราชสีมา แจ้งเตือนประชาชน ท้ายอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง ตั้งแต่ อ.โนนไทย โนนสูง เมือง พิมาย ลงไป เก็บทรัพย์สินสิ่งของจำเป็นขึ้นไว้ที่สูง เนื่องจากต้องระบายน้ำเพิ่ม พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ หากต้องอพยพประชาชนออกจากพื้นที่
วันที่ 26 ก.ย. 2564 กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา แจ้งเตือนการระบายน้ำ อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง) ฉบับที่ 2
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา ได้รับแจ้ง จากโครงการชลประทานนครราชสีมา ว่าเนื่องจากปริมาณน้ำจากลำเชียงไกร ตอนบน และลำน้ำสาขามีปริมาณป็นจำนวนมาก และได้ระบายลง อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร ตอนล่าง จึงมีความจำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำเป็นจำนวนมาก (ข้อมูล ณ เวลา 14.09 น.วันที่ 26 ก.ย. 2564) ระบายน้ำลงลำน้ำเดิม 66.43 ลบ.ม. ระบายน้ำผ่านอาคาร
ระบายน้ำฉุกเฉิน 101.72 ลบ.ม. รวมการระบายน้ำ 168.15 ลบ.ม. ส่งผลให้ระดับน้ำในลำเชียงไกร และลำน้ำสาขา มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น และจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำริมสองฝังลำน้ำ และพื้นที่ริมตลิ่ง
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา พิจารณาแล้วขอให้ดำเนินการ ดังนี้
1. ให้อำเภอด้านท้ายอ่างฯ ได้แก่ อำเภอโนนไทย พระทองคำ เมืองนครราชสีมา โนนสูง พิมาย ชุมพวง ลำทะเมนชัย และอำเภอเมืองยาง แจ้งเตือนประชาชนให้ทราบถึงสถานการณ์อยู่ในภาวะเสี่ยงอันตรายสูง เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการควบคุมสถานการณ์ ให้อพยพไปยังสถานที่ปลอดภัย ในระดับสีส้ม โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ริมน้ำและที่ลุ่มต่ำ ให้เก็บทรัพย์สินสิ่งของจำเป็นขึ้นไว้ที่สูงกว่าที่เคย ระวังติดตามมวลน้ำไหลเชี่ยวแรง ดูแลเด็กเล็กและคนชรา ผู้ป่วยติดเตียง
2. ประสานท้องถิ่น ติดตั้งเครื่องสูบน้ำในจุดสำคัญทางเศรษฐกิจ จัดหาและสนับสนุนกระสอบทราย ให้กับประชาชนเพื่อปิดกั้นน้ำเข้าบ้านเรือนและพื้นที่สำคัญ จัดรถกระจายข่าวแจ้งเตือนประชาชนให้ทั่วถึง และจัดกำลังเจ้าหน้าที่ ประสานกำลังพลสนับสนุนการอพยพประชาชนไปยังศูนย์พักพิงที่เตรียมไว้ล่วงหน้า จัดตั้งโรงครัว หรือครัวพระราชทาน เพื่อดูแลผู้ได้รับผลกระทบและเจ้าหน้าที่
3. ให้ความสำคัญในการแจ้งให้พี่น้องประชาชนได้รับรู้อย่างทั่วถึง ขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสาร และปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการอย่างใกล้ชิด
4. กรณีการอพยพประชาชน ขอให้ไม่ต้องห่วงทรัพย์สิน ควรให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในชีวิต และความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น
5. ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครอง จะมีการจัดชุดลาดตระเวนตรวจตรา ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันผู้ฉกฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สิน
6. รายงานสถานการณ์ และผลการดำเนินการ ตามแบบรายงานเหตุด่วนสาธารณภัยพร้อมภาพถ่ายให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมาทราบทันที จนกว่าสถานการณ์จะสิ้นสุด
ทั้งนี้ จากอิทธิพลพายุโซนร้อน ‘เตี้ยนหมู่’ ทำให้เกิดฝนตกในปริมาณมาก ไม่น้อยกว่า 50 ล้าน ลบ.ม. รวมกับลำน้ำสาขาต่างๆ และปริมาณน้ำในพื้นที่ที่ค้างอยู่ โดยอ่างเก็บน้ำทั้งหมด ทั้งขนาดกลาง และขนาดเล็ก มีปริมาณน้ำเกินความจุทั้งหมดแล้ว
นอกจากนี้ ทางโครงการชลประทานนครราชสีมา ได้แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ท้ายอ่างลำเชียงไกรตอนล่าง ให้เตรียมขนของมีค่าขึ้นสู่ที่สูงและเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันด้วย
ด้าน ผอ.โครงการชลประทานนครราชสีมา ยืนยัน อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง ยังไม่แตก ยอมรับปริมาณน้ำที่มีจำนวนมาก จึงต้องใช้ช่องระบายน้ำ ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างอาคารระบายน้ำ ซึ่งยอมรับว่า มีคันดินด้านข้างชำรุดกว้างประมาณ 15 เมตร แต่สามารถควบคุมได้ พร้อมสั่งให้หาจุดตัดเพิ่ม เพื่อเพิ่มการระบายน้ำ เป็นการรักษาความปลอดภัยของตัวอ่างฯ ย้ำยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้
ขณะที่ เพจกองทัพภาคที่ 2 แจ้งประกาศด่วนเขื่อนลำเชียงไกรแตกแล้ว โดยระบุว่า พี่น้องโคราช พระทองคำ ด่านขุนทด โนนไทย โนนสูง พิมาย รีบขนของหนีขึ้นที่สูงด่วน
เนื่องจาก อ่างลำเชียงไกรล่าง ตำบลบัลลังก์ อำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา จะต้องระบายน้ำเพิ่มอีกมาก ตั้งแต่วันนี้ (26 ก.ย.) จึงขอให้อำเภอที่อยู่ด้านท้ายอ่าง ตั้งแต่ อำเภอโนนไทย โนนสูง เมือง พิมาย ฯลฯ ลงไป แจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ริมน้ำและที่ลุ่มต่ำให้เก็บทรัพย์สินสิ่งของจำเป็นขึ้นไว้ที่สูงกว่าที่เคย เฝ้าระวังติดตามมวลน้ำไหลเชี่ยวแรง ดูแลเด็กเล็กและคนชรา ผู้ป่วยติดเตียง แจ้งให้พี่น้องประชาชนได้รับรู้อย่างทั่วถึง
ขอให้ติดตามและปฏิบัติตามคำแนะนำ กรณีการอพยพ แจ้งขอให้ไม่ต้องห่วงทรัพย์สิน แต่ควรห่วงชีวิตและการสูญเสีย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครอง จะมีการลาดตระเวนตรวจตราป้องกันผู้ฉกฉวยโอกาสขโมยลักทรัพย์สินของชาวบ้าน
ที่มา : https://web.facebook.com/PrArmy2/photos/pcb.4085022788293154/4085022134959886/










