หลังจากที่พรรคภูมิใจไทยเข้ามาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล มีการเปิดเผยว่า รัฐบาลใหม่เตรียมนำโครงการ “คนละครึ่ง” กลับมาปัดฝุ่นอีกครั้ง โดยสามารถเริ่มได้ภายใน 1 เดือน ผ่านโครงสร้างเดิมบนแอปพลิเคชันเป๋าตัง โดยโครงการคนละครึ่งถือเป็นมาตรการที่ประชาชนคุ้นเคย โดยล่าสุดมีความเคลื่อนไหวจาก ซีอีโอ LINE MAN Wongnai ผู้ให้บริการ Food Delivery ที่ออกมาสนับสนุนโครงการนี้ โดยเห็นว่ามีประสิทธิภาพที่จะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อแบบเห็นผลมากที่สุด และยัง สามารถใช้ร่วมกับบริการ Food Delivery ได้เช่นกัน

[ ซีอีโอ LINE MAN Wongnai บอกปีนี้ธุรกิจอาหารยาก ]
ด้าน ‘ยอด ชินสุภัคกุล’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai โพสต์บนเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงภาพรวมธุรกิจร้านอาหารในปัจจุบันว่า “จากสถิติของ LINE MAN Wongnai พบว่ายอดขายเฉลี่ยของร้านอาหารทั่วประเทศไทยลดลงมาตั้งแต่ต้นปี โดยไตรมาส 2 ลดลงมากถึง -14%
หากดูเฉพาะพื้นที่กรุงเทพ ยอดขายไตรมาส 2 ลดเยอะกว่าต่างจังหวัดด้วยคือ -16%, พื้นที่ย่านธุรกิจ (CBD) -19% และพื้นที่ยอดนิยมอย่างบรรทัดทอง ลดลงถึง -35% เท่าที่คุยกับเจ้าของร้านอาหารหลายๆคน ปีนี้มันยากจริงๆนะครับ”
[ หนุนโครงการคนละครึ่งประชาชนคุ้นชิน ร้านค้าขนาดเล็กยอดขายเพิ่ม ]
ล่าสุดวันนี้ (8 ก.ย.) ‘ยอด’ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้อีกครั้งว่า โครงการคนละครึ่งเป็นมาตรการที่มีหลักการถูกต้องและมีงานวิจัยรองรับว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าการอุดหนุนแบบ แจกเงิน 100% (Subsydi 100%) เพราะช่วยลดปัญหาการรั่วไหล เพราะผู้ใช้ต้องออกเงินเองครึ่งหนึ่ง
อีกทั้งยังออกแบบให้กระตุ้นการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่องผ่านการจำกัดวงเงินต่อวัน ทำให้ผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจยั่งยืนกว่าเดิม และที่สำคัญเงินยังไหลตรงสู่ร้านค้า SME ขนาดเล็ก ซึ่งช่วยเพิ่มฐานลูกค้าและศักยภาพในการเติบโตระยะยาว
[ เตรียมพบรัฐบาลเสนอแผนช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหาร ]
และเร็วๆ นี้ เขากับสมาคมภัตตาคารไทย เตรียมเข้าพบพรรคภูมิใจไทยเสนอแผนกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่แก่รัฐบาลชุดใหม่ โดยมีโครงการ “คนละครึ่ง” เป็นต้นแบบ เพื่อช่วยเหลือตลาดร้านอาหารที่กำลังประสบปัญหา
เพราะตอนที่มีโครงการ “คนละครึ่ง” ใน LINE MAN มีร้านค้าเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก เกิน 50,000 ร้านค้าที่เข้าร่วมและแม้โครงการคนละครึ่งจะดำเนินไปเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้วแต่ ผู้คนยังคงคิดถึงและพูดถึง
ขณะที่เรื่องของยอดขายร้านอาหารขนาดเล็กใน LINE MAN มียอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 1.7 เท่า ถึง 4 เท่า ในช่วงที่มีโครงการ หลังจากโครงการสิ้นสุดลง ร้านค้าเหล่านี้ยังคงมียอดลูกค้าใช้บริการเพิ่มขึ้นในระดับหนึ่ง และถ้าดูยอดขายจากเดลิเวอรีอย่างเดียวโตเฉลี่ย 2.5 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงก่อนโครงการ
ในเชิงปฏิบัติ หากโครงการถูกนำกลับมา ‘ยอด’ ให้ความเห็นว่า “ถ้าใช้ระบบเดิมเป็นหลัก ก็สามารถทำได้ทัน โดยอาจต้องแก้ไขเพียงเล็กน้อย ซึ่งน่าจะดำเนินการได้ภายใน 4 เดือน และหากแผนได้รับอนุมัติ ก็สามารถเปิดใช้งานได้ทันที เพียงแค่ทดสอบเพิ่มเติมเล็กน้อยเพื่อยืนยันว่าระบบยังคงทำงานได้เหมือนเดิม”
และในภาพรวมเศรษฐกิจใหญ่ หากมีการกระตุ้นการใช้จ่ายในลักษณะนี้ในช่วงไตรมาส 4 จะช่วยให้บรรยากาศทางเศรษฐกิจโดยรวมคึกคักและดีขึ้นได้










