ยายขายลอตเตอรี่ ใบละ 80 บาท ถูกทหารที่ขายใบละ 100 บาทขับไล่ กองทัพบกแถลงเสียใจ พร้อมตั้งกรรมการสอบวินัย ด้านตำรวจเตรียมเรียกคู่กรณีมารับทราบข้อกล่าวหา พร้อมดูแลเวลาความปลอดภัย เวลายายไปขายลอตเตอรี่

จากกรณี ยายวัย 71 ปี ขายลอตเตอรี่ ร้องเรียนเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังถูก ทหารยศ ‘จ.ส.อ.’ ขับไล่และ ทำร้ายร่างกาย คาดสาเหตุจากที่ยายขายลอตเตอรี่ใบละ 80 บาท ซึ่งราคาถูกกว่าของตน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2565 บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ด้านหลังกองบัญชาการกองทัพบก ถนนประชาธิปไตย ในพื้นที่สน.นางเลิ้ง และสน.ชนะสงคราม
วันที่ 28 เม.ย. 2565 ทีมงานของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย ได้พา นางยุรี อร่ามแสง อายุ 71 ปี อาชีพขายสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือลอตเตอรี่ พร้อม นายอมรรัตน์ อร่ามแสง ลูกชาย และนายปิยาภรณ์ อร่ามแสง หลานชาย เข้าพบ ผู้กำกับการ สน.นางเลิ้ง เพื่อติดตามคดี หลังจากทราบว่า จ.ส.อ.คู่กรณี ได้เข้าแจ้งความเช่นเดียวกัน
นายอมรรัตน์ ลูกชายของยายยุรี เล่าว่า คู่กรณีเวลาเห็นแม่นั่งขายลอตเตอรี่อยู่ มักจะเดินเข้ามาต่อว่า เข้ามาบอกทำนองว่าไม่ให้ขายตรงนี้ให้ไปขายที่อื่น โดยวันเกิดเหตุที่ทำร้ายร่างกาย เพราะหลานชายไปถามคู่กรณีเรื่องที่ห้ามไม่ให้ยายขายตรงนี้จึงชกต่อยกัน ถูกคู่กรณีเอาหมวกกันน็อคตี ส่วนสาเหตุเชื่อว่า เพราะไม่พอใจที่ไปขายตัดราคา เนื่องจากยายขายลอตเตอรี่ในราคาโควต้าใบละ 80 บาท ซึ่งราคาถูกกว่า ส่วนทางคู่กรณีขายราคา 100 บาท
ส่วน ยายยุรี บอกว่า มาขอความเป็นธรรมเพราะถูกผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ขับไล่ ทั้งที่ขายราคาถูกต้องตามกฎหมาย ยืนยันว่า แม้จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ก็จะมายังขายลอตเตอรี่ที่เดิม ในราคา 80 บาทต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ ผกก.สน.นางเลิ้ง กล่าวว่า หลังเกิดเหตุคู่กรณีได้เข้าแจ้งความได้สอบปากคำส่งสำนวนอัยการแล้ว ส่วนยายจะสอบปากคำให้แล้วเสร็จและเรียกคู่กรณีรับทราบข้อกล่าวหาต่อไป ซึ่งทั้งสองฝ่ายแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย ส่วนเรื่องความปลอดภัยของยายจะประสานไปที่ สน.ชนะสงคราม เพราะเป็นพื้นที่เกิดเหตุดูแลความปลอดภัยของยายเวลาไปขายลอตเตอรี่ ไม่ให้มีการถูกขับไล่
ขณะที่ พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก กองทัพบก เปิดเผยว่า จากกรณีที่ปรากฎข่าวคุณยายอายุ 71 ปี ผู้ขายลอตเตอรี่ เข้าร้องเรียนว่า มีเหตุทะเลาะวิวาทกับทหารชั้นประทวนเกี่ยวกับการขายฉลาก บริเวณ ถ.ประชาธิปไตย แขวงบางขุนพรหม กทม. เมื่อ 27 เม.ย. 65 กองทัพบกรับทราบข่าวดังกล่าวและได้ตรวจสอบแล้ว บุคคลดังกล่าวเป็นนายทหารชั้นประทวน สังกัด กรมกำลังพลทหารบก ขณะนี้ต้นสังกัดได้เรียกเจ้าตัวมาให้ข้อมูลและตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว เบื้องต้นแม้เป็นเหตุทะเลาะวิวาทระหว่างบุคคล แต่เมื่อเกิดการร้องเรียนว่า มีการใช้วิธีการแก้ปัญหาแบบเกินกว่าเหตุและไม่เหมาะสม ทางต้นสังกัดจะได้พิจารณาลงโทษตามวินัยทหารตามพฤติกรรมที่ปรากฎต่อไป ส่วนการแจ้งดำเนินคดีตามกฎหมายก็เป็นสิทธิ์ของแต่ละฝ่าย
อย่างไรก็ตาม กองทัพบกขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ ที่ได้รับผลกระทบทางจิตใจ และได้มีการเชิญผู้ร้องเรียนมาพูดคุย รับทราบข้อมูลและความวิตกกังวล พร้อมให้การช่วยเหลือคลี่คลายเรื่องราวตามสมควรต่อไป










