จนท.ป่าไม้ เข้ารังวัดที่ดิน “ลุงเสี้ยว” จ.ราชบุรี หลังมีข้อพิพาทกับพ่อปารีณา กว่า 30 ไร่

จนท.ป่าไม้ เข้ารังวัดที่ดิน “ลุงเสี้ยว” จ.ราชบุรี หลังมีข้อพิพาทกับพ่อปารีณา กว่า 30 ไร่

ป่าไม้สนธิกำลังเข้ารังวัดตรวจสอบที่ดินของนายเสี้ยว นำพา ชาวบ้าน อ.สวนผึ้ง ที่ได้ร้องขอศูนย์ดำรงธรรมให้ตรวจสอบสิทธิ์ทำกิน กรณีที่ดินของตัวเองถูกพ่อของนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ บุกรุกล้อมรั้วลวดหนาม ทำให้เนื้อที่หายไปกว่า 30 ไร่

เวลา 10.00 น.  วันนี้ (4 ธ.ค.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุชาติ บัวบาง เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน ศูนย์ป่าไม้ราชบุรี สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10(ราชบุรี) พร้อมด้วยนายอรุณ สิงโต หัวหน้าหน่วยป้องกันและพัฒนาสวนผึ้ง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ รบ. 2 (บ่อหวี) เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม ฝ่ายปกครอง ตำรวจ สภ.สวนผึ้ง พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าตรวจสอบที่ดินของนายเสี้ยว นำพา อายุ 74 ปี ในพื้นที่หมู่ที่ 9 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี หลังที่มีการเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดราชบุรี กรณีที่นายทวี ไกรคุปต์ พ่อของนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ เข้าไปปักเสาล้อมรั้วลวดหนามเขตเข้าไปในเขตพื้นที่ของนายเสี้ยว ที่มีพื้นที่ทำกินกว่า 50 ไร่ แต่ถูกบุกรุกล้อมรั้วเข้าไปกว่า 30 ไร่ จนเหลืออยู่เพียง 10 กว่าไร่เศษ

โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้แผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ พร้อมกับเครื่องตรวจจับพิกัดที่ดินซึ่งมีหมายเลขรหัสกำกับไว้ พร้อมเข้าเดินตรวจสอบแต่ละเสาหมุด โดยมีนายเสี้ยวพร้อมนางปราณี นำพา บุตรสาวเป็นผู้นำพาไปชี้จุดที่ดินแปลงดังกล่าว

นายสุชาติ บัวบาง เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน ศูนย์ป่าไม้ราชบุรี สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) เปิดเผยว่า การตรวจสอบที่ดินครั้งนี้ หลังจากนายเสี้ยวได้ไปร้องศูนย์ดำรงธรรมสวนผึ้ง และยังมีการแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจภูธรสวนผึ้ง ไว้ว่ามีการปักรั้วลวดหนามรุกล้ำเข้ามาในที่ดินของตนเอง เรื่องนี้ได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ รบ. 2 และตนเองยังเป็นคณะทำงานเรื่องตรวจสอบพื้นที่บุกรุกบริเวณด้านฝั่งตรงข้าม นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่จากอำเภอสวนผึ้ง เจ้าหน้าที่ กอ.รมน. ศูนย์ดำรงธรรม กำนัน ผู้ใหญ่บ้านร่วมกันตรวจสอบเพื่อพิสูจน์ทราบว่าข้อเท็จจริงตามที่มีการร้องบุกรุก ล้อมรั้วลวดหนามนั้น วันนี้ได้มาตรวจสอบพื้นที่มีการล้อมรั้วลวดหนาม มีต้นไม้เป็นต้นมะพร้าวปลูกในพื้นที่

โดยที่ดินนายเสี้ยวได้มีการสำรวจการถือครองไว้ ปัจจุบันที่ดินได้มอบให้กับ น.ส.อำไพ นำพา 23 ไร่ 2 งาน  79 ตารางวา และ น.ส.ปราณี นำพา 23 ไร่ 99 ตารางวา เบื้องต้นพื้นที่นี้ ทั้ง 2 รายได้รับการสำรวจข้อการสำรวจการถือครอง เพื่อจัดการที่ดินทำกินในเขตพื้นที่ป่าไม้ถาวร เขตป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี หมายเลข 85 เมื่อปี พ.ศ. 2559 ตอนนี้มีข้อมูลว่าทางเจ้าหน้าที่ได้สำรวจไว้แล้ว และส่วนตรงนี้จะดูรายละเอียดว่าที่มีการร้องนั้น ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร ซึ่งจะนำข้อมูลที่ได้ไปร่วมกันพิจารณาแก้ไข ส่วนใครที่เข้ามาบุกรุกโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมยืนยันที่จะบังคับใช้กฎหมายโดยเสมอภาคไม่เลือกปฏิบัติ ส่วนที่เหลืออาจจะต้องตั้งคณะทำงานขึ้นมาเนื่องจากเป็นเรื่องใหญ่ จะต้องมีหลายหน่วยงานเข้ามาเกี่ยวข้อง

สำหรับพื้นที่ที่ตรวจสอบในวันนี้ยังคงมีพื้นที่เท่าเดิม แต่ไม่รู้ว่าใครมาเป็นผู้บุกรุก  จึงจะให้เจ้าหน้าที่จับพิกัดพื้นที่ทั้งหมด และตรวจสอบมีการนำพืชอะไรบ้างเข้ามาปลูกในพื้นที่ ดูระยะเวลาการปลูกว่านานมากน้อยแค่ไหน เป็นพยานหลักฐานที่ปรากฏในพื้นที่ดังกล่าวด้วย เบื้องต้นกรณีการปักหลักในพื้นที่ล้ำเข้าไปในพื้นที่ที่มีการรังวัดของชาวบ้านนั้น จะเข้าข่ายเรื่องพิพาทของเอกชน และพิพาทในที่ดินของรัฐ ถ้าใครมีพิพาทกับที่ดินของรัฐก็จะถูกดำเนินการไปตามกฎหมายตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง