ชาวเพชรบูรณ์กว่า 60 คน ร้องผู้ว่าฯ มหาสารคาม เชื่อญาติถูก ตร.บรบือ ป้ายผิดเป็นแพะคดียาบ้า

ชาวเพชรบูรณ์กว่า 60 คน ร้องผู้ว่าฯ มหาสารคาม เชื่อญาติถูก ตร.บรบือ ป้ายผิดเป็นแพะคดียาบ้า

ในประเทศ

ชาวบ้านเชื่อ ญาติถูก ตร.บรบือ ป้ายผิดเป็นแพะคดียาบ้ากว่า 2,000 เม็ด ยันญาติอยู่เพชรบูรณ์วันเกิดเหตุ แต่ก่อนหน้าโทรศัพท์ถูกรถไถเหยียบแตก ญาติเอาไปแลกกะละมัง กลายเป็นถูกออกหมายจับจากมหาสารคาม ทั้งที่ตัวอยู่เพชรบูรณ์

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 3 มิ.ย. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้าน บ้านพุน้ำร้อน ต.ยางสาว อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ กว่า 60 คน ได้มาที่ศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม เพื่อพบกับ ผวจ.มหาสารคาม เพื่อร้องเรียนคดีของ นายนิต พิจิตรอาจ ผู้ต้องหาที่ถูกตำรวจ สภ.บรบือ จ.มหาสารคาม จับกุมตัวในคดียาเสพติดจำนวน 2,000 เม็ด โดยวันนี้ทั้งญาติๆ และชาวบ้านเดินทางมา เพราะเชื่อว่านายนิตเป็นคนดี ไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกตั้งข้อหา อาชีพทำไร่อยู่ที่บ้าน และเปิดร้านขายของเล็กๆ ในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นคนที่ชาวบ้านทั้งในหมู่บ้านและหมู่บ้านอื่นตำบลอื่นรู้จักเป็นอย่างดี ชอบช่วยเหลือชาวบ้านในงานต่างๆ

จนกระทั่งวันที่ 25 เม.ย.62 ได้มีหมายจากตำรวจที่จังหวัดมหาสารคาม แจ้งเป็นผู้ต้องหาค้ายาบ้า 2,000 เม็ด จากการล่อซื้อแล้วนายนิตขับรถหลบหนีออกมา และวันต่อมาทางเราได้เข้าไปพบตำรวจ เพื่อยื่นหลักฐานทุกอย่างที่มี พร้อมพยานว่าเราไม่ผิด ไม่ได้ทำ วันที่เกิดเหตุนั้นนายนิตอยู่ที่บ้าน จ.เพชรบูรณ์ แต่เหตุเกิดที่ จ.มหาสารคาม และมีพยานยืนยัน แต่วันที่ไปนั้นทางตำรวจจับตัวไว้และนำไปฝากขังที่เรือนจำมหาสารคราม และไม่ให้ประกันตัว

นางสาว ปรีดา พิจิตรอาจ ลูกสาวของนายนิต กล่าวว่า คดีนี้เริ่มต้นจากคืนวันที่ 3 เมษายน เพื่อนบ้านมาเล่าให้นายนิตฟังว่า เมื่อคืนไปทำอะไรมา มีปลัดอำเภอโทร.มาหาบอกว่าไปส่งยาเสพติด ตอนนั้นนายนิตนึกว่าเป็นเรื่องล้อเล่น จึงไม่ได้สนใจอะไร จนวันต่อมามีตำรวจโทร.หามาหาผู้ใหญ่บ้าน บอกว่านายนิตถูกแจ้งความจับในข้อหายาเสพติด จนสุดท้ายมีหมายจับส่งมาที่บ้านให้ไปพบกับพนักงานสอบสวน สภ.บรบือ จนทราบว่ามีการล่อซื้อยาเสพติดกันในคืนวันที่ 3 เมษายน ผู้ต้องหาในคดีนั้นซัดทอดว่าเอายาเสพติดมาจากนายนิต โดยมีข้อความทางไลน์และเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อกันเป็นหลักฐาน จนตำรวจออกหมายจับผู้จดทะเบียนครอบครองเบอร์นี้ คือนายนิตในที่สุด

แต่ภรรยาและญาติยืนยันว่า นายนิตเลิกใช้เบอร์โทรศัพท์ดังกล่าวมาแล้วนานเกือบ 2 ปี ซึ่งก่อนหน้านั้นโทรศัพท์ถูกรถไถเหยียบจนใช้การไม่ได้ จากนั้นมีรถรับซื้อของเก่ามารับซื้อของในหมู่บ้าน นายนิตก็นำโทรศัพท์ที่พังไปแลกกับกะละมัง เนื่องจากใช้การไม่ได้ แต่ก็ลืมคิดไปว่ามีซิมการ์ดติดไปด้วย จนลูกสาวซื้อโทรศัพท์และเบอร์ให้ใหม่ ก็ไม่ได้สนใจเบอร์เก่าที่เป็นเรื่องเป็นราวกัน จนมาเกิดเรื่องขึ้นว่านายนิตไปขายยาบ้าในคืนวันดังกล่าว ซึ่งทั้งสองคนยืนยันว่านายนิตอยู่ที่บ้านในอำเภอวิเชียรบุรี ไม่ได้ไปส่งยาที่บรบือ มหาสารคามตามที่ถูกจับกุมอย่างแน่นอน

ภายหลังจากถูกออกหมายจับแล้ว ญาติๆ พานายนิตไปพบกับตำรวจที่ สภ.บรบือ เพื่อมอบตัวในวันที่ 17 เมษายน แต่ตำรวจก็ปล่อยตัวออกมา โดยที่ไม่ต้องประกันตัว ก่อนจะนัดมาใหม่วันที่ 27 เมษายน พร้อมให้หาพยานหลักฐานมาสู้ว่าไม่มีความผิด จนญาติๆ พานายนิตมาพบอีกครั้งในวันที่ 27 เมษายน พร้อมกับสอบปากคำเสร็จสิ้น

แต่สิ่งหนึ่งที่ญาติตกใจคือ ตำรวจกับเขียนในสำนวนว่านายนิตถูกจับกุม โดยการที่ตำรวจนำกำลังไปจับกุมตามหมายศาล ที่ถนนในเขตเทศบาลบรบือ หลังเห็นนายนิตเดินเตร็ดเตร่อยู่บริเวณดังกล่าว แต่ความเป็นจริงคือเราพากันไปหาตำรวจเพื่อให้สอบปากคำ แต่ตำรวจกลับไม่เขียนให้ตรงความเป็นจริง ตัวของนายนิตเองและญาติพยายามโต้แย้งไป แต่ตำรวจกับบังคับให้เซ็นไปก่อน อ้างว่าไม่ใช่สาระสำคัญ จนนายนิตยอมเซ็น ทำให้ไม่ได้ประกันตัวในชั้นศาลออกมาสู้คดี

ชาวบ้านได้ของร้องความยุติธรรม ทาง นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผวจ.มหาสารคาม ได้เชิญตัวแทนชาวบ้าน 5 คน เข้าไปพบที่ห้องประชุม และมีทาง พล.ต.ต.อดิศักดิ์ เดชะคำภู ผบก.จ.มหาสารคาม ทาง ผวจ.ก็ได้รับเรื่องและได้ให้ทาง ผบก.ตั้งคณะกรรมการมาสอบสวนคดีดังกล่าวขึ้นมาใหม่ โดย 2 ทีม ให้ตั้งพนักงานสอบสวนใหม่ทั้งหมด และอีกหนึ่งชุดให้ทำการสืบทางลับ แล้วจะรีบมาสรุปสำนวนให้เร็วที่สุด ทางจังหวัดยังได้ให้ทางสำนักงานยุติธรรมจังหวัดเข้ามาทำการช่วยเหลือ ให้เตรียมเอกสารมาในวันพรุ่งนี้ และจะช่วยดำเนินการยื่นหลักทรัพย์และพาไปประกันตัวยื่นต่อศาล ส่วนทางจังหวัดจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด จนเป็นที่พึงพอใจของชาวบ้าน จึงได้ยอมเดินทางกลับ

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง