รีวิวซีรีส์ สืบสันดาน: “ออกไปใช้ชีวิตแบบเก่าเหรอ?” เมื่อทุกชนชั้นต้องหนีตายจากสังคมเฮงซวย

รีวิวซีรีส์ สืบสันดาน: “ออกไปใช้ชีวิตแบบเก่าเหรอ?” เมื่อทุกชนชั้นต้องหนีตายจากสังคมเฮงซวย

บันเทิง

“ออกไปใช้ชีวิตแบบเก่าเหรอ?” เมื่อทุกชนชั้นต้องหนีตาย จากสังคมเฮงซวยใน “สืบสันดาน”

**เนื้อหานี้มีการเปิดเผยเนื้อเรื่องบางส่วน

หลังจากที่ Netflix ทยอยส่ง Original Series ของไทยออกมาหลายเรื่องมากๆ และกระแสตอบรับก็ดีมากๆ เช่นกัน ทีนี้ก็ถึงตาของ “สืบสันดาน” ซีรีส์เนื้อหาจัดจ้าน เข้มข้น ที่คนไทยภาคภูมิใจกันเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าพอเราได้มีโอกาสดูซีรีส์เรื่องนี้ เราก็จะคิดตามกับประเด็นต่างๆ ในเรื่องนี้ จนมาถึงพาร์ทคนใช้ที่หลายครั้งพวกเขามักจะ “ไม่มีทางเลือก” อยู่เสมอ เรามีโอกาสได้ดูจนค้นพบสัจธรรม (อย่างกับธรรมะ) ว่า “คนเราถ้ามันจนตรอก ต่อให้ต้องทำอะไรที่มันผิดแปลก มันก็ต้องทำเพื่อความอยู่รอด” แล้วก็รู้สึกว่ามันจริง

สืบสันดาน เป็นการเล่าเรื่องผ่านคฤหาสน์เทวสถิตย์ไพศาล  นำโดย “เจ้าสัวรุ่งโรจน์” ผู้ก่อตั้งเทวาเจมส์ บริษัทค้าขายเพชรที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ซึ่งมีลูกชายสองคนคือ “ภูพัฒน์” และ “มาวิน” และทั้งสองก็มีครอบครัวอยู่ในบ้านเดียวกัน เรื่องจะเล่าถึงความสัมพันธ์ การต่อสู้ และการแย่งชิง โดยผ่านสิ่งหนึ่งที่อยู่ในตัวของเราคือ “สันดาน” นั่นเอง และผู้ผลิตซีรีส์ชุดนี้จะเป็นใครไปไม่ได้ ก็ต้องเป็น Kantana Motion Pictures อย่างแน่นอน

ซีรีส์ สืบสันดาน (Master of the House) จาก Netflix

เมื่อลองดูตัวละครแต่ละตัว จริงๆ แล้วแก่นลึกๆ ของผู้ทำซีรีส์เรื่องนี้คงตั้งใจจะสื่อให้เห็นการ “เอาตัวรอด” ของผู้คนนั่นแหละ เพราะทุกตัวละครล้วนมีปมปัญหาอยู่ภูมิหลังแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะรวยหรือจน หรืออะไรก็สุดแล้วแต่ ทุกคนล้วนต้องเอาตัวรอด

ตัวอย่างที่น่าจะชัดที่สุด คือกลุ่มคนใช้อย่าง “เทียน-โจ๊ก-แก้ว” ที่ทั้งสามคนนี้จะเป็นตัวเล่าเรื่องในฝั่งคนใช้ได้เด่นพอๆ กับไข่มุกที่เป็นนางเอกเลย จริงๆ แล้วหากมองภูมิหลัง บทที่แก้วกับเทียน คู่รักคนใช้ที่คุยกันในกรณีที่ “มาวิน” เจ้านายของแก้ว มีเพศสัมพันธ์กับแก้วจนตั้งครรภ์ และมาวินก็บอกให้แก้วเอาลูกออก แม้แก้วเป็นคนขอไม่ให้เอาลูกออก แต่สุดท้ายแก้วก็บอกกับเทียนว่า “มันเป็นคำสั่ง” แถมตบท้ายด้วยบทสนทนาสุดเจ็บปวดว่า “เราจะออกไปใช้ชีวิตแบบเก่าเหรอ? ชีวิตแบบที่พี่เป็นกุ๊ย หนูขายตัว หนูไม่อยากกลับไปใช้ชีวิตแบบนั้นอีกแล้ว” ทำให้เห็นว่าแก้วกับเทียนยอมทำทุกอย่างเพื่อเอาตัวรอด แม้ต้องแลกกับการถูกด้อยค่าความเป็นมนุษย์อย่างสาหัสสากรรจ์ก็ตาม

ซีรีส์ สืบสันดาน (Master of the House) จาก Netflix

อีกพอยท์ที่เห็นได้ชัด คือการ “สืบสันดาน” (ในที่นี้คือนิสัยและอารมณ์) ของผู้เป็นพ่อ ตั้งแต่เจ้าสัวรุ่งโรจน์ เทวสถิตย์ไพศาล ที่ปลูกฝังนิสัยลูกทั้งสอง ซึ่งได้แก่ “ภูพัฒน์” และ “มาวิน” ให้เน้นเอาชนะกัน แน่นอนว่าผู้เป็นพ่อไม่ได้สนใจระหว่างทางอยู่แล้ว ไม่ว่าลูกจะโกงมากน้อยแค่ไหน แต่ลูกต้องชนะเท่านั้น ซึ่งผลลัพธ์ในห้วงเวลาต่อมาเมื่อเขาโตขึ้น คือการสาด “สันดาน” เหล่านี้ส่งต่อไปหาทุกคนในคฤหาสน์ เช่นกันกับที่ คีตา ลูกของภูพัฒน์ และชัตเตอร์ ลูกของมาวิน ที่โดน “ผู้ใหญ่” ที่อยู่ในบ้านทอดทิ้ง ไม่รับฟังพวกเขา และพวกเขาก็ไม่รู้จะทำอย่างไรนอกจากปรึกษากันเอง จนทำให้เกิดนิสัยและสันดานที่ผิดๆ ซึ่งกว่าครอบครัวจะรู้ตัวก็สายไปเสียแล้วว่าความสัมพันธ์ในครอบครัวนั้นร้าวฉานเกินกว่าจะเยียวยาได้

แต่จะให้พูดว่าจุดจบสุดท้ายของ “ลูกคนรวยสันดานเสีย” คือการอยากได้ อยากมีก็คงไม่ถูกสักเท่าไหร่ เอาเข้าจริงๆ แล้วลูกคนรวยก็ตกอยู่ใน “วังวนน้ำเน่า” ของสังคมในคฤหาสน์เทวสถิตย์ไพศาล เพราะลูกคนรวยต่างหากที่ทำให้เราเห็นแก่นที่แท้จริงของมนุษย์ว่า “ทุกคนอยากหนีตายเพื่อเป็นอิสระ” ทั้งตัวมาวินและภูพัฒน์ในฐานะตัวละครสำคัญ อันส่งผลที่ทำให้ทั้งคู่ต้องห้ำหั่นและเปิดเผยสันดานออกมาแบบ Unlimited อย่างกับโปรโมชั่นมือถือที่ดู 5G ก็สะใจเสียเหลือเกิน 

ซีรีส์ สืบสันดาน (Master of the House) จาก Netflix

เอาเข้าจริงๆ สืบสันดานสำหรับเราไม่ได้ทำมาเพื่อเสียดสีเพียงอย่างเดียว หรือเพื่อเป็นซีรีส์ที่มีเนื้อหาแบบละครหลังข่าว แต่ถ้าดูจากแก่นของซีรีส์เรื่องนี้จะพบอย่างหนึ่งว่า สิ่งที่คนเราต้องการไขว่คว้ามาครอบครองในชีวิตมีอยู่ไม่กี่อย่าง หากเป็นเงินและอำนาจ นั่นเพราะว่าเงินและอำนาจมอบ “การเป็นที่ยอมรับ” และ “การเป็นอิสระ” ให้กับเราได้ และเพื่อการได้มาซึ่งสิ่งนั้น จึงส่งผลทำให้บางคนพยายาม “แหกขนบเก่าๆ ที่มีอยู่” และ “ลุกขึ้นต่อสู้” นั่นเอง

แน่นอนว่าการที่จะได้ปัจจัยอะไรอย่างนี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากสภาพแวดล้อมภายในบ้าน การดูแลครอบครัว การเอาใจใส่ และการปลูกฝังค่านิยมใหม่ๆ และอีกส่วนคือสภาพสังคม การดูแลประชากรของรัฐบาล และรัฐสวัสดิการที่เกิดขึ้นแบบไม่เอารัดเอาเปรียบ เพราะต่อให้คุณถูกจ้างให้เป็นแม่บ้านที่เงินเดือนเทียบเท่าตำแหน่งผู้จัดการวุฒิ ป.โท ในบริษัทดังๆ แต่คุณต้องอยู่สแตนบายรอตลอด 24 ชม. แถมโดนทำร้าย ด้อยค่า และถูกเอาเปรียบแบบไม่เป็นธรรม มันก็ไม่ได้เป็นงานในฝันของทุกคนแน่นอน

กลับมาที่โลกความเป็นจริง เชื่อว่าพวกเราทุกคนที่อ่านเนื้อหานี้อยู่ก็คงอยากได้ “อิสรภาพและการยอมรับ” ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งแน่นอน ซึ่งเราก็คงตอบไม่ได้ว่าคุณจะได้หรือไม่ได้ แต่สิ่งที่จะทำให้คุณเอาตัวรอดในสังคมที่เงินเดือนก็น้อย คนก็ตกงาน บริษัทก็เจ๊ง หรือครอบครัวที่เฮงซวยแบบในเรื่อง มีสองทาง คือคุณไม่ไปสู้แบบขาดใจตายแบบ “คนใช้” ในคฤหาสน์ หรือลองดูต้นทุนที่ตัวเองมีแล้วยอมหนีเพื่อเอาต้นทุนมาตั้งรกรากใหม่ ไม่ก็ทำ “สันดานต่ำช้า” ไปเลยแบบเหล่าคนรวย ก็สุดแล้วแต่ทางจะเลือก

เพราะไม่ใช่ว่า “คุณเลือกเอง” ได้

แต่สังคมเฮงซวยต่างหากที่ “เลือกให้คุณ” ตั้งแต่การให้คุณสู้แล้ว

ซีรีส์ สืบสันดาน (Master of the House) จาก Netflix

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง