‘บอร์ดค่าจ้าง’ ยันตามมติเดิม ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำปี 67 อัตรา 2-16 บาท เตรียมตั้งอนุกรรมการปรับสูตรใหม่
นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดแรงงานกระทรวงแรงงาน เปิดเผยหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง (บอร์ดค่าจ้าง) ชุดที่ 22 ครั้งที่ 10/2566 มีมติเห็นชอบ ปรับค่าจ้างขั้นต่ำปี 2567 ตามมติเดิมเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 66 ไปก่อน เนื่องจากสูตรคำนวณที่คณะกรรมการฯ ใช้เป็นสูตรที่เห็นชอบให้อนุกรรมการทุกจังหวัดใช้เป็นเกณฑ์ ซึ่งเป็นการพิจารณาด้วยเหตุผล และอยู่บนข้อมูลเศรษฐกิจปัจจุบัน จึงเห็นควรปรับอัตราค่าจ้างตามความเหมาะสมและเป็นความจริง อยู่บนพื้นฐานความเสมอภาค เป็นธรรมและน่าเชื่อถือ
แต่หลังจากนี้จะตั้งคณะอนุกรรมการปรับสูตรคำนวณใหม่ ซึ่งจะมีตัวแทนนักวิชาการเศรษฐศาสตร์ นายจ้าง ลูกจ้าง เข้าร่วม โดยอาจจะมีการพิจารณาตามประเภทกิจการเข้ามาด้วย
“ตอนนี้ใช้ตามมติเดิมไปก่อน คือ ใช้มติตามวันที่ 8 ธันวาคม เมื่อคำนวณสูตรใหม่แล้ว เราจะเรียกประชุมบอร์ดเพื่อพิจารณาค่าจ้างใหม่ ซึ่งอาจจะมีเพิ่มขยักสองในปีหน้า แต่จะทำให้เร็วที่สุด” ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าว
นายไพโรจน์ กล่าวด้วยว่า การพิจารณาปรับขึ้นอัตราค่าจ้างสูตรเก่า คำนวณจากปี 2563-2564 ช่วงเกิดโควิด ซึ่งอัตราเศรษฐกิจในช่วงนั้นตกต่ำ และเกิดภาวะเงินเฟ้อ คงต้องนำมาคำนวณใหม่เพื่อให้เปอร์เซ็นต์ค่าจ้างเพิ่มขึ้น ซึ่งทางคณะกรรมการค่าจ้างจะพิจารณาโดยเร็ว โดยจะตั้งคณะอนุกรรมการปรับสูตรอัตราค่าจ้าง ในวันที่ 17 ม.ค. 67 เพื่อพิจารณา แล้วเสนอมายังคณะกรรมการชุดใหญ่ แต่ต้องให้อนุกรรมการในรายจังหวัดพิจารณาด้วย
ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวด้วยว่า มติที่ประชุมวันนี้เป็นเสียงเอกฉันท์และได้รายงานให้ รมว.แรงงานทราบแล้ว เพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม. สัปดาห์หน้าต่อไป
เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 66 บอร์ดค่าจ้าง มีมติให้ปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำ 77 จังหวัด ในอัตราเพิ่มขึ้น 2-16 บาท ซึ่งค่าจ้างค่าขั้นต่ำที่เพิ่มมากที่สุดคือ จ.ภูเก็ต คือ 370 เพิ่มขึ้นจาก 354 บาท และต่ำที่สุดคือ 330 บาท ใน 3 จังหวัด คือ นราธิวาส ปัตตานี และยะลา
ก่อนหน้านี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เคยระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในอัตราดังกล่าว โดยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ได้เสนอมติบอร์ดค่าจ้าง เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 66 เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 12 ธ.ค. 66 แต่ก็ได้ดึงเรื่องกลับ และเกิดการประชุมบอร์ดค่าจ้างอีกครั้งในวันนี้
ภาพปก กระทรวงแรงงาน
