สธ.สรุปผลตรวจผู้ป่วยสงสัยติดเชื้อฝีดาษลิง 10 ราย พบเป็นเชื้อไวรัสเริม สั่งเข้มเฝ้าระวัง เน้นย้ำมาตรการคัดกรองผู้ป่วยคลินิกเฉพาะ สนามบินนานาชาติยืนยัน ไทยยังไม่พบผู้ป่วยฝีดาษลิง

Hand of a patient with monkeypox infection, 3D illustration. Monkeypox is a zoonotic virus from Poxviridae family, causes monkeypox, a pox-like disease.
วันนี้ (23 มิ.ย. 2565) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่าได้รับรายงานจากด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศ และจากโรงพยาบาลทั้งภาครัฐ และเอกชนพบผู้ป่วยสงสัยฝีดาษลิงรวม 10 ราย ทั้งหมดเป็นชาวต่างชาติ ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการได้รับการยืนยันว่า ในจำนวนนี้ 6 รายพบเชื้อไวรัสเริม (Herpes Simplex Virus type 1) ซึ่งทั้ง 6 ราย มีประวัติเชื่อมโยงกับการซ้อมมวยในสนามฝึกซ้อมมวยที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาใช้บริการจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดกระบี่ ส่วนอีก 4 ราย เป็นโรคติดเชื้อที่ผิวหนัง
นพ.โอภาส กล่าวว่า หน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ได้ประสานให้คำแนะนำสนามฝึกซ้อมมวยที่พบผู้ป่วยทุกแห่ง ให้ทำความสะอาดฆ่าเชื้ออุปกรณ์ฝึกซ้อมและสถานที่เป็นประจำ หากผู้ที่มาฝึกซ้อมมวยมีอาการป่วย โดยเฉพาะมีผื่น หรือตุ่มน้ำ หรือตุ่มหนอง ให้รีบไปพบแพทย์และแจ้งประวัติการเดินทางและร่วมกิจกรรมเสี่ยง รวมถึงเน้นย้ำให้บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขช่วยกันเฝ้าระวังการระบาดของโรคไวรัสเริม หรือ Herpes Simplex Virus ในพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว

• ย้ำฝีดาษลิงติดยากกว่าโควิด-19
นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กล่าวว่า ในการสอบสวนโรคเบื้องต้นผู้ป่วยสงสัยรายล่าสุดซึ่งศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข กรมควบคุมโรค กรณีฝีดาษลิง ได้รับรายงานจากโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ผู้ป่วยสงสัย เพศชาย อายุ 21 ปี ชาวออสเตรเลีย อาชีพนักมวย เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2565 มีประวัติได้ไปซ้อมมวยที่สนามฝึกซ้อมมวยแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี เริ่มมีไข้ ไอ เจ็บคอ และเริ่มมีผื่นแดง ตุ่มน้ำ ตุ่มหนอง บริเวณใบหน้า ลำคอ และแขน ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ยืนยันตรวจไม่พบเชื้อฝีดาษลิง
ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา ระบุว่า เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งตรวจหาสาเหตุของโรค พร้อมกับเน้นย้ำว่า โรคฝีดาษลิงติดต่อได้ยากกว่าโรคโควิด-19 เพราะต้องมีการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยระยะแพร่เชื้อ ซึ่งเป็นระยะที่ปรากฏอาการแล้ว เช่น มีไข้ ตุ่มหนองตามผิวหนัง
สำหรับสถานการณ์โรคฝีดาษลิงทั่วโลก ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค. – 22 มิ.ย. 65 พบผู้ป่วยยืนยันแล้ว 3,157 ราย จากทั้งหมด 45 ประเทศ
ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบผู้ป่วยยืนยันโรคฝีดาษลิงรายแรก ในประเทศสิงคโปร์ เป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ชาวอังกฤษ อายุ 42 ปี มีประวัติเดินทางมาสิงคโปร์ระหว่างวันที่ 15-17 มิ.ย. 65 และกลับมาอีกครั้งวันที่ 19 มิ.ย. 65 เริ่มมีอาการปวดศีรษะวันที่ 14 มิ.ย. และมีไข้วันที่ 16 มิ.ย. อาการหายไปแล้วมีผื่นขึ้นวันที่ 19 มิ.ย. จึงเข้ารับการตรวจทาง tele-consultation ในคืนวันนั้น ถูกส่งตัวไปสถาบันโรคติดเชื้อแห่งชาติ (NICD) และตรวจพบเชื้อวันที่ 20 มิ.ย. โดยทำการค้นหาผู้สัมผัส (contact tracing) พบผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง 13 ราย อยู่ระหว่างการกักตัว 21 วัน และผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงต่ำอีก 2 ราย อยู่ระหว่างติดตามอาการป่วยทุกวันเป็นเวลา 21 วัน ซึ่งนับเป็นผู้ป่วยติดเชื้อมาจากพื้นที่อื่น (imported case) ที่ทางหน่วยงานด้านสาธารณสุข สิงคโปร์ ดำเนินการควบคุมโรค และประเมินเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติไปในสถานที่เดียวกับผู้ป่วยยืนยันด้วย










