
มวลน้ำจากหนองหาร จ.สกลนคร หลากสู่ลำน้ำก่ำที่ไหลผ่าน 4 อำเภอของ จ.นครพนม จนล้นตลิ่งหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตรเสียหายอย่างหนัก
วันที่ 6 ก.ย. 2562 ผลกระทบจากการระบายน้ำหนองหารจากพื้นที่ จ.สกลนคร หลังมีปริมาณน้ำเอ่อล้นเกินความจุ จนกระทั่งมีการระบายมวลน้ำหนองหาร ลงลำน้ำก่ำ ซึ่งรับน้ำไหลระบาย ลงสู่น้ำโขง ที่ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ส่งผลให้ ปริมาณน้ำก่ำ เริ่มเอ่อล้นตลอดทั้งวันที่ผ่านมา ทะลักท่วมพื้นที่การเกษตร บ้านเรือนในพื้นที่ ปากบัง ต.พิมาน อ.นาแก จ.นครพนม ซึ่ง เป็นจุดรวมระหว่างน้ำทั้ง 2 สาย คือ ลำน้ำก่ำ กับลำน้ำบัง ทำให้เกิดผลกระทบทุกปี สร้างความเดอืดร้อนให้ชาวบ้าน ทั้งเรื่องความเป็นอยู่ รวมถึงพื้นที่การเกษตร ข้าวนาปี ถูกน้ำท่วมขังเสียหายทุกปี โดยตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ชาวบ้านปากบัง กว่า 300 ครัวเรือน ยังคงเฝ้าระวังระดับน้ำก่ำที่เอ่อล้น หนุนลำน้ำบัง ทะลัก ท่วมบ้านเรือน แล้วกว่า 60 หลังคาเรือน รวมถึงพื้นที่การเกษตรนาข้าว กว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมขัง คาดว่าจะได้รับความเสียหายทั้งหมด เนื่องจากยังมีมวลน้ำจากหลายพื้นที่ไหลมาสมทบ หากระดับน้ำเพิ่มขึ้น และท่วมขัง นานคาดว่าจะมีน้ำท่วมขังนาข้าวเสียหาย ไม่ต่ำกว่า 3,000 ไร่ ทั้งนี้ ทางอำเภอนาแก ได้ประสาน ผู้นำชุมชน ท้องถิ่น เฝ้าระวัง ดูแล ตลอด 24 ชั่วโมง หากระดับน้ำสูงต่อเนื่อง จะได้เข้าช่วย เหลืออพยพชาวบ้าน ขึ้นที่สูงทัน

ขณะเดียวกัน ได้มีชาวบ้าน ที่บ้านเรือนติดลำน้ำบัง กว่า 60 หลังคาเรือน ถูกน้ำท่วมขัง เริ่มได้รับผลกระทบ ทั้งความเป็นอยู่ ต้องยกสิ่งของขึ้นที่สูง ไม่มีห้องน้ำใช้ และต้องทนทุกข์ อยู่กับสภาพน้ำท่วม ลุยน้ำเข้าออก ส่งผลให้ บางราย เริ่มเจ็บป่วยโรคทางเดินหายใจ เป็นไข้หวัด จากสภาพอากาศ รวมถึงโรคมากับน้ำ เท้าเปื่อย และโรคเครียด อีกทั้งยังต้องระวังสัตว์มีพิษที่มากับน้ำ

ชาวบ้าน เปิดเผยว่า พื้นที่บ้านปากบัง ถือเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก มานานกว่า 50 ปี ต้องลุ้นว่า บางปี น้ำจะท่วมมากน้อยแค่ไหน บางปีน้ำน้ำน้อยไม่ได้รับผลกระทบโชคดี หนักสุดปี 2560 ท่วมสูง ขังนานเกือบ 2 เดือน หมู่บ้านกลายเป็นเกาะต้องคอยภาครัฐ ส่งข้าวอาหาร น้ำดื่ม เช่นเดียวกับปีนี้ช่วงฤดูฝนต้องเฝ้าระวังหากลำน้ำก่ำ ไหลมาสมทบ ลำน้ำบัง ซึ่งเป็นจุดรวมน้ำที่ชาวบ้านเรียกว่าปากบัง ทำให้เอ่อล้น ท่วม ล่าสุดระดับน้ำยังเพิ่มขึ้น ทะลักท่วมบ้านเรือนแล้วกว่า 60 หลังคาเรือน หนักสุด นาข้าว ท่วมหนัก กระทบแล้วกว่า 2,000 ไร่ หากระดับน้ำสูงต่อเนื่อง พื้นที่นาข้าวกว่า 3,000 ไร่ จะถูกท่วมขังเสียหายทั้งหมด เดือนร้อนแต่ต้องอยู่ตามวิถีชีวิต รอเงินชดเชยจากภาครัฐ สำคัญช่วงน้ำท่วม ต้องลำบาก ห้องน้ำ ความเป็นอยู่ ป่วยเป็นโรคมากับน้ำ หนำซ้ำต้องระวังสัตว์มีพิษ หากจะมีการแก้ไข มองว่าจะต้องสร้างคันคูสูงกั้นน้ำเอ่อล้น และที่สำคัญอยากให้ภาครัฐสร้างคลองส่งน้ำระบบชลประทานครอบคลุมหมู่บ้าน ให้ทำการเกษตรฤดูแล้งได้ เป็นการชดเชย เคยเสนอไปหลายครั้ง แต่ติดขัดเรื่องงบประมาณ รอความหวังจากรัฐบาล
ขอบคุณภาพปกจากเพจ นครพนม









