
ทันทีที่เพจเฟซบุ๊ก ReReef เผยแพร่ภาพกับดักช้างป่า พร้อมบอกเล่าเรื่องราว กับดักช้างเกือบร้อยอันรอบบ่อน้ำ ติดกับแนวเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง บ.วังมน ต.ภูหอ อ.ภูหลวง จ.เลย ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่า อาจมีผู้ไม่พอใจที่ช้างป่าเดินเข้ามาในพื้นที่เกษตรกรรมของตนเองและอาจสร้างความเสียหาย แต่วิธีนี้ไม่ช่วยอะไรเลย นอกจากทำให้ช้างบาดเจ็บและอาจติดเชื้อเป็แผลอักเสบ ถึงขั้นเสียชีวิตได้
กับดักช้างไทยประดิษฐ์ ทำด้วยตะปูแหลมถูกตอกไว้บนท่อนไม้ถูกพรางไว้ในพงหญ้า หลายอันขึ้นสนิมเขรอะ เจ้าหน้าที่รายงานว่าบางอันช้างเหยียบไปแล้วด้วย
-ไม่ตายไม่ได้หมายความว่าดีเสมอไป ความทุกข์ทรมานจากกับดักประเภทนี้ รุนแรงขั้นสุด
วันที่ 22 ม.ค. 2565 หมอล็อต นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน หัวหน้ากลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช บอกด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจในฐานะผู้รักษาสัตว์ป่า กับดักตะปูที่ตอกติดกับแผ่นไม้ หากช้างมาเหยียบเข้า จะติดแน่นเรื่อยๆ ยากที่จะหลุดออกเองได้ ด้วยน้ำหนักช้าง หลายตัวที่เหยียบเข้าไปตะปูที่ยาวหลายนิ้ว แทบจะฝังมิดด้าม จากนั้นทุกย่างก้าวที่ช้างลงน้ำหนักขาเหมือนตายทั้งเป็น
แม้ฝ่าเท้าช้าง ที่มีก้อนไขมันและเปลือกเท้าคอยรองรับน้ำหนัก แต่ปลายเท้าที่มีเส้นประสาทประกอบกับรูตะปูที่ขึ้นสนิม ทำให้เจ็บปวดทรมาน เชื้อบาดทะยักเข้าสู่แผลได้ง่ายและเชื้อก็ชอบด้วย ต้องเอาออกและล้างแผลให้วัคซีนเท่านั้น
อันตรายและความยากลำบากของเจ้าหน้าที่ก็จะมากขึ้นในการช่วยเหลือ ชื่นชมเจ้าหน้าที่ที่สามารถเก็บกู้ได้กว่า 70 อัน ส่วนจะมีช้างป่าเคราะห์ร้ายตัวไหนที่ติดกับดักตะปูไปแล้ว ทีมช่วยเหลือก็พร้อมที่จะลงพื้นที่ทันทีให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกคนและช้างป่าทุกตัว
–จนท. พิทักษ์ป่า หอบหลักฐาน ‘กับดักไทยประดิษฐ์’ พึ่งกฎหมายลงโทษคนจงใจทำร้ายช้าง
นายเนียด บุตะทา หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่าภูหอ เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ภูหลวง หลังรวบรวมพยานหลักฐานพร้อมของกลาง กับดักช้างจำนวน 70 อัน ที่สายตรวจลาดตระเวนเชิงคุณภาพประจำหน่วยพิทักษ์ป่าภูหอ ออกลาดตระเวนพบในลักษณะทำด้วยไม้กลมคล้ายเขียง ตีตะปูขนาดใหญ่ให้โผล่ออกมาอีกด้าน ความยาวกว่า 3 ซม. นำไปวางโดยพรางด้วยหญ้าแห้ง บริเวณขอบสระน้ำเพื่อการเกษตรในบริเวณบ้านสวนปอ ต.แก่งศรีภูมิ อ.ภูหลวง จ.เลย นอกเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ประมาณ 750 เมตร
บริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่สืบทราบว่าเป็นสระน้ำของชาวบ้านรายหนึ่งและคาดว่าเป็นผู้วางกับดัก โดยโกรธแค้นที่ช้างป่าออกทำลายพืชผลเกษตรในช่วงที่ผ่านมา และน่าจะมีผู้ร่วมขบวนการอีกหลายคน เพราะมีการวางกับดักลักษณะนี้เป็นจำนวนมากรอบพื้นที่สระน้ำ ตลอดจนริมตลิ่ง
จากการตรวจสอบพื้นที่ข้างเคียง เจ้าหน้าที่ไม่พบว่ามีช้างป่าตัวใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ส่วนพฤติกรรมดังกล่าว เป็นการวางกับดักเพื่อให้ช้างป่าเดินมาเหยียบ ถือว่ามีเจตนาล่าช้างป่า นับเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 12 ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงได้นำหลักฐานทั้งหมด เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อสืบสวนสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมาย











