กรมการปกครอง สั่งสอบปลอมแปลงบัตรประชาชน หลังโซเชียลแชร์ภาพชายหนุ่มมีบัตรประชาชนคนเดียว 7 ใบ ยืนยันใช้เลือกตั้งไม่ได้ เตือนปลอมแปลงเอกสารราชการ มีโทษหนักทั้งจำ-ปรับ
แมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
จากกรณีมีการแชร์ภาพและข้อความเกี่ยวกับชายคนหนึ่งมีบัตรประจำตัวประชาชน 7 ใบ โดยแต่ละใบ ปรากฏชื่อ-นามสกุลไม่ซ้ำกัน แต่ใบหน้าเจ้าของบัตรประชาชนเป็นบุคคลเดียวกัน และมีที่อยู่อาศัยที่เดียวกันคือ ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
ล่าสุดนายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง เปิดเผยว่า กรมการปกครองได้ทำการตรวจสอบแล้วพบว่า บุคคลตามภาพถ่ายตามหลักฐานทางทะเบียนและข้อมูลการขอมีบัตร ชื่อนายภาคิน สุขประพันธ์ กรณีดังกล่าวเป็นการปลอมแปลงบัตร ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้อมูลในฐานข้อมูลระบบการจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนของกรมการปกครองแต่อย่างใด
อธิบดีกรมการปกครอง ชี้แจงว่า เป็นการใช้ชื่อบุคคลอื่นกระทำการปลอมแปลงบัตรขึ้นมาเอง โดยกรมการปกครองจะมีหนังสือแจ้งจังหวัดกาญจนบุรีซึ่งเป็นนายทะเบียนท้องที่ ดำเนินการจัดทำหนังสือกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองกาญจนบุรี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สำหรับการปลอมแปลงรายละเอียดชื่อในบัตรประจำตัวประชาชน เป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 ผู้ใดปลอมเอกสารสิทธิ หรือเอกสารราชการ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาท
เมื่อถามว่าการปลอมแปลงบัตรประชาชนลักษณะนี้ จะมีผลกับการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นหรือไม่นั้น
นายแมนรัตน์ ขอยืนยันว่า บุคคลดังกล่าวไม่สามารถนำเอกสารที่ปลอมแปลงขึ้นมาไปใช้ในการเลือกตั้งได้ เนื่องจากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรและบัตรประชาชนที่กรมการปกครองในฐานะสำนักทะเบียนกลางจัดส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้งนั้น ไม่ปรากฏชื่ออื่น ๆ นอกเหนือจากชื่อจริงของบุคคลนั้น ๆ ซึ่งการแสดงตนเพื่อใช้สิทธิเลือกตั้งจะมีการตรวจสอบความถูกต้องตรงกันของรายการบัตรประจำตัวประชาชนกับรายการทะเบียนบ้าน
หากประชาชนมีข้อสงสัยหรือมีเบาะแสการกระทำผิดในลักษณะนี้ในพื้นที่อื่น ๆ สามารถแจ้งผ่านสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง
