ถึงจะวิพากษ์วิจารณ์กันมากเรื่องค้าๆ ขายๆ ที่ไทยขาดดุลกับจีนกันแค่ไหน แต่ความที่ตลาดผู้บริโภคในจีนนั้นใหญ่มหาศาล ทำให้ประเทศต่างๆ ก็ยังหวังจะได้ประโยชน์จากการค้าขายกับจีน โดยในปี 2567 จีนมีสัดส่วนการค้า 19% ของมูลค่าการค้าทั้งหมดของไทย
แต่การจะทำให้สินค้าจากไทยขยายตลาดไปจีนได้ถูกกลุ่มเป้าหมาย สำคัญคือ การรู้จักพื้นที่ค้าขายและความนิยมต่างๆ ว่าคนจีนสนใจสินค้าไทยอะไรบ้าง ยิ่งถ้ารู่้ได้ถึงขนาดว่า แต่ละมณฑลต่างๆ ในจีนชอบและสนใจสินค้าไทยตัวไหนได้มาก ก็จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ และธุรกิจเอสเอ็มอีไทยที่จะไปลุยตลาดจีนได้มั่นใจมากขึ้น
แน่นอนว่าทำเองก็ยากตอนนี้กระทรวงพาณิชย์เลยพยายามเข้ามาช่วยผู้ประกอบการไทย โดยสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เพิ่งจะเปิดตัว แพลทฟอร์มที่จะมาช่วยให้นักธุรกิจและผู้ประประกอบการไทย เข้าไปดูข้อมูลอินไซด์ต่างๆ ว่าสินค้าไทยที่คนจีนสนใจในแต่ละมณฑลมีอะไรบ้าง พร้อมทั้งสถิติตัวเลขที่พอจะทำให้เรามาวางระบบค้าขายต่อไป
บริการใหม่นี้มีชื่อว่า “คิดค้า Briefing ที่จะเปิดข้อมูลเจาะลึกตลาดจีนรายมณฑล เพื่อช่วยให้สินค้าไทยขยายตลาดต่อเนื่อง
“คิดค้า Briefing” จะนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจการค้าเชิงลึกในรูปแบบของการเล่าเรื่อง (Data Storytelling) ที่เข้าใจง่ายและใช้งานสะดวก
โดยไปที่หัวข้อ “ปักหมุดสินค้าไทยรุกตลาดจีน” จะนำเสนอข้อมูลการค้าเชิงลึกในระดับมณฑลของจีน เพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยตัดสินใจเชิงนโยบาย ปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจ และเพิ่มโอกาสในการส่งออกไปตลาดจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ใครสนใจสามารถเข้าใช้งานได้แล้วบนเว็บไซต์ “คิดค้า.com”
ถือเป็นความพยายามจะส่งเสริมเศรษฐกิจการค้าระหว่างไทยและจีน โดยเฉพาะความพยายายามขยายตลาดไปยังภูมิภาคต่างๆ ของจีนที่มีความแตกต่างกันทั้งขนาดพื้นที่ จำนวนประชากร ระดับการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งวิถีชีวิตและพฤติกรรมการอุปโภคบริโภคของผู้คน โดยนำเสนอข้อมูลในระดับ ‘มณฑล’ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าถึงข้อมูลสำคัญ เพื่อจะเป็นประโยชน์ในการวางแผนการค้าในตลาดจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
[ มณฑลที่ค้าขายกับไทยมากสุด กวางตุ้ง เจียงซู เจ้อเจียง ]
โดยมีตัวอย่างข้อมูลที่น่าสนใจ ดังนี้
1) การค้าระหว่างไทยและจีนในปี 2567 มีมูลค่า 134,236 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มณฑลที่มีมูลค่าการค้ากับไทยสูงสุด 3 อันดับแรก คือ กวางตุ้ง มูลค่า 31,488.21 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รองลงมา คือ เจียงซู มูลค่า 18,871.31 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และเจ้อเจียง มูลค่า 17,333.47 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
นอกจากนั้น ยังพบมณฑลดาวรุ่งที่มีความต้องการนำเข้าสินค้าไทยสูงสุด 3 อันดับแรก คือ มณฑลเซี่ยงไฮ้ มูลค่าการนำเข้าจากไทย 6,347.01 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 7.99% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน (AoA)
ตามด้วยเสฉวน มูลค่าการนำเข้า 714.82 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 47.65%AoA และหูเป่ย มูลค่าการนำเข้า 683.11 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 79.86%AoA
2) กลุ่มสินค้าไทยที่จีนนำเข้ามูลค่าสูงสุด 3 อันดับแรก คือ กลุ่มผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง โดยมณฑลดาวรุ่งที่น่าสนใจ คือ มณฑลหูเป่ย มูลค่า 175.18 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 367.15%AoA และไห่หนาน 57.69 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 45.57%AoA
สำหรับกลุ่มเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ มณฑลที่น่าสนใจ คือ เจียงซู มูลค่า 830.30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 10.94%AoA และเซี่ยงไฮ้ 459.99 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 45.97%AoA และกลุ่มแผงวงจรไฟฟ้า ตลาดที่น่าสนใจ คือ มณฑลฝูเจี้ยน มูลค่า 69.46 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 12.55%AoA
ส่วนสินค้าดาวรุ่งของไทยที่จีนนำเข้าเพิ่มขึ้น คือ สินค้าอุตสาหกรรมอื่น ๆ มูลค่า 1,976.26 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 9.70%AoA โดยมณฑลที่น่าสนใจ คือ มณฑลเจียงซู 364.15 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 20.19%AoA
ถัดมา คือ สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตรอื่น ๆ 1,315.29 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 30.08% ตลาดที่น่าสนใจ คือ เจ้อเจียง 334.85 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 98.48% และไม้แปรรูป 1,246.99 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 25.75%AoA มณฑลที่น่าจับตามอง คือ มณฑลกวางตุ้ง 940.72 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 31.51%AoA
[ นอกจากทุเรียน มังคุด ลำไย ตอนนี้ เกรปฟรุ๊ตกับส้มโอ กำลังมาแรง ]
3) ในส่วนของสถานการณ์ผลไม้ไทยในตลาดจีน พบว่า ไทยยังครองตำแหน่งแหล่งนำเข้าผลไม้อันดับหนึ่งของจีน ด้วยส่วนแบ่งตลาด 52.71% โดยผลไม้ไทยที่จีนนำเข้ามูลค่าสูงสุด ได้แก่ ทุเรียนสด มังคุดสดหรือแห้ง และลำไยสด
นอกจากนี้ ยังมีผลไม้ไทยชนิดอื่นที่ได้รับความสนใจจากจีนเช่นกัน เช่น เกรปฟรุ๊ตและส้มโอ ที่มีการนำเข้าขยายตัว 16.12%AoA รวมถึงมีหลายมณฑลที่นำเข้าผลไม้ไทยเพิ่มขึ้น เช่น มณฑลเสฉวน มูลค่า 269.36 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 79.0%AoA เซี่ยงไฮ้ 267.43 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 11.89%AoA และเหอเป่ย 228.95 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 57.75%AoA
จะเห็นว่าความเป็นเมืองของจีนในมณฑลต่างๆ ขยายตัวขึ้น เป็นโอกาสสำคัญของผู้ประกอบการไทยที่จะขยายตลาดลงสู่ระดับมณฑล โดยเฉพาะมณฑลชั้นในที่มีความต้องการสินค้าไทยมากขึ้น ดังนั้นสามารถเข้าไปศึกษาจีนรายมณฑลผ่าน “คิดค้า Briefing” หัวข้อ “ปักหมุดสินค้าไทย” กันได้










