“อยากจะมอบดอกไม้ให้ผู้ว่าฯ ก็มอบได้ อยากจะโยนก้อนอิฐมาให้ผู้ว่าฯ ก็รับฟัง”
วันที่ 18 ก.ย. 2564 นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง ในฐานะที่เคยดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้พูดคุยกับประชาชนผ่านเพจเฟซบุ๊ก COVID-19 สมุทรสาคร เป็นครั้งสุดและถือว่าเป็นการอำลาตำแหน่ง และอำลารายการ “ไม่แพ้แน่นอน เราจะผ่านไปด้วยกัน” ซึ่งถือเป็นรายการที่นายวีระศักดิ์ ใช้สื่อสารกับคนสมุทรสาครในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิดตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง

“ในฐานะอดีตผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ต้องขอบคุณคนสมุทรสาครทุกคนเพราะว่าเรามากินอยู่หลับนอนอยู่ที่นี่ เจ็บป่วยอยู่ที่นี่ ได้มาสนุกสนานร่วมกันทำงานที่ เพราะฉะนั้นสมุทรสาครที่เป็นเสมือนบ้านอีกหลังหนึ่ง ต้องขอโทษจากใจจริงที่อาจจะมีมาตรการที่ทำให้หลายคนต้องลำบาก แต่ว่าเรื่องวัคซีนจริงๆ อยากให้ทุกคนมีสิทธิมีเสรีภาพได้เลือกฉีดวัคซีนยี่ห้อต่างๆ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ยืนยันว่าไม่ใช่ผู้วิเศษ อะไรก็แล้วแต่จำเป็นต้องช่วยกัน อะไรก็แล้วแต่ต้องคำนึงถึงเป้าหมายส่วนรวมด้วกัน
เราไม่สามารถทำงานโดยลำพังคนเดียวได้ แต่จำเป็นต้องอาศัยการทำงานร่วมมือกันทุกฝ่ายในสมุทรสาคร ช่วยกันทำให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน สร้างด่านหน้าแข็งแรงสู้กับโควิด-19 ให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะว่าผู้ว่าฯ ไม่ใช่ผู้วิเศษ ผู้ว่าฯทำงานคนเดียวไม่ได้ ต้องอาศัยเรี่ยวแรง อะไรเป็นข้อเสนอโยนเข้ามาได้ในเฟซบุ๊ก ในคอมเมนต์อ่านทุกคอมเมนต์ แต่ไม่สามารถตอบได้เพราะว่าวันเวลาแต่ละช่วงของวันจะมีงานเข้ามาเยอะแยะ เราเปิดเป็นเสรีภาพ อยากจะมอบดอกไม้ให้ผู้ว่าฯ ก็มอบได้ อยากจะโยนก้อนอิฐมาให้ผู้ว่าฯ ก็รับฟัง แต่ขอไม่ให้ใช้ข้อความหยาบคาย จะบอก จะเตือนให้สติ ผู้ว่าฯ ยินดีน้อมรับฟัง
อยากบอกคนสมุทรสาคร ตอนนี้ผมมาเป็นผู้ว่าฯ อ่างทอง หลายท่านคิดว่ามาครั้งนี้คงไม่ได้ทำงานแล้วคงมาพักผ่อน ถ้าคิดอย่างนี้โปรดคิดใหม่ เพราะเป้าหมายสำคัญในชีวิตข้าราชการคือการทำงาน แล้ววันนี้ถ้าตัดสินใจการทำงานก็ต้องครบ 60ปีบริบูรณ์ ซึ่งจะเสร็จสิ้นภารกิจ วันที่ 30 ก.ย. 2565 ไม่ได้มาพักผ่อน มาทำงาน เพียงแต่ว่าที่นี่จะคล่องตัวหน่อยเพราะบ้านอยู่ที่นี่ แต่อย่างอื่นยังเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นให้คำสัญญาว่า จะตั้งใจมาทำงาน สัญญาคนกับอ่างทอง ยืนยันว่าตั้งใจมาทำงาน ขอบคุณคนสมุทรสาครทุกคนที่ให้การสนับสนุน สัญญาว่าส่วนหนึ่งของหัวใจคนชื่อว่า วีระศักดิ์ พร้อมเสมอที่จะกลับไปรับใช้คนสมุทรสาคร ตามอัตภาพตามกำลังที่ตนเองมี” นายวีระศักดิ์ กล่าว

อยากให้คนสมุทรสาคร ยังยึดถือมาตการของ สธ. ถือเป็นหัวใจสำคัญ แต่หากผ่อนคลายมาตรการอย่างเดียว และไม่มีการป้องกันเบ็ดเสร็จเด็ดขาดจะทำให้โควิด-19 กลับมาเยือนคนสมุทรสาครได้อีก แต่ระยะหลังมานี้เราสามารถลดผู้ป่วยผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ได้ดีพอสมควร เป็นดัชนีชี้วัดให้เห็นว่าเรากำลังเดินมาถูกทางในการแก้ไขปัญหาโควิด-19
เราสามารถฉีดวัคซีนได้มากกว่า 70% แต่แม้จะฉีดได้ครบ 70% หลายฝ่ายออกมาให้ข้อมุลว่ายังไม่สามารถเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ได้ เพราะโควิดสามาถกลายพันธุ์และมีอานุภาพทำลายล้างได้มากขึ้น เพราะฉะนั้นต้องดันการฉีดวัคซีนจาก 70% เป็น 80% 90% อยากให้ทุกคนฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุด ขณะเดียวกันต้องเปิดให้คนต่างชาติที่พักอาศัยในไทยเข้าถึงการฉีดวัคซีน เป็นช่วงนาทีทองทุกฝ่ายต้องช่วยกัน เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่
ตลาดรถไฟอยู่คู่เมืองมหาชัย สมุทรสาครมายาวนานแต่ยังพบว่าสถานที่แห่งนี้ยังไม่ถูกสุขลักษณะพอสมควร หนำซ้ำยังต้องเผชิญปัญหาโควิด-19 เสนอแนะว่าต้องปรับปรุง จึงมีการของบประมาณปรับปรุง เงินกู้ งบกลางของ ครม. แต่ยังไม่ได้รับอนุมัติ จึงได้ขออนุเคราะห์จากทางคนสมุทรสาครร่วมต้านภัยโควิด-19 เพื่อวางฝาระบายน้ำใหม่ เปลี่ยนฝาพักบ่อ 4 แห่ง ปูกระเบื้องทางเดิน ซ่อมแผงระบายน้ำ ภาพรวมคือเป็นการทำความสะอาดและเมื่อโควิด-19 หายนักท่องเที่ยวจะเห็นภาพลักษณ์ใหม่ของสถานที่แห่งนี้
ขณะที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กเข้ามาแสดงความคิดเห็น ขอบคุณ นายวีระศักดิ์ ที่ทำงานพัฒนาพื้นที่เพื่อชาว จ.สมุทรสาคร และขอให้สุขภาพแข็งแรงตลอดระยะเวลาของการรับราชการ










