สภาฯ มีมติรับหลักการร่าง ‘พ.ร.บ.ห้ามตีลูก’ ลดการใช้อำนาจเกินขอบเขตของพ่อแม่-ผู้ปกครอง
วันที่ 25 กรกฎาคม 2567 การประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณา ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1567 หรือร่าง ‘พ.ร.บ.ห้ามตีลูก’ ที่นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นผู้เสนอ เพื่อลดการใช้อำนาจเกินขอบเขต มุ่งคุ้มครองสิทธิเด็กทั้งร่างกายและจิตใจ
สาระสำคัญของร่างกฎหมายฉบับนี้ได้เสนอแก้ไขเนื้อความ จากเดิมที่ได้บัญญัติไว้ว่า “ผู้ใช้อำนาจปกครองมีสิทธิ (2) ทำโทษบุตรตามสมควรเพื่อว่ากล่าวสั่งสอน”
เปลี่ยนเป็น
“ผู้ใช้อำนาจปกครองมีสิทธิ (2) ทำโทษบุตรเพื่อว่ากล่าวตักเตือนตามสมควร แต่ต้องไม่เป็นการทารุณกรรม หรือทำร้ายร่างกายหรือจิตใจ ไม่เป็นการเฆี่ยนตี หรือทำโทษอื่นใดเป็นการด้อยค่า”
ความสำคัญของร่างพระราชบัญญัตินี้
1. แก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิเด็กจากการกำหนดโทษด้วยความรุนแรงจากผู้ใช้อำนาจในการปกครอง
2. สอดคล้องกับอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก อันจะก่อให้เกิดให้เกิดประโยชน์ในการคุ้มครอง สิทธิเด็กและเป็นไปตามเจตนารมณ์ของอนุสัญญา ว่าด้วยสิทธิเด็กที่จะนำไปสู่มาตรการที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อเด็ก (The best interest of child)
เพราะการปกป้องสิทธิเด็ก เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ ในการจะทำให้พวกเขาได้เติบโตมาอย่างสมบูรณ์ จะต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยทั้งร่างกายและจิตใจ ด้วยหลักการของร่างฯ นี้ ที่มีเจตนารมณ์เพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับเด็ก ให้เด็กไม่ถูกใช้ความรุนแรงในการกำหนดโทษที่อาจเลยเถิดเป็นการทำร้าย
หลังการอภิปรายอย่างกว้างขวาง ในที่สุดที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ก็ได้ลงมติและมีมติเอกฉันท์ เห็นชอบ 400 เสียง ให้ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว เข้าพิจารณาต่อในชั้นกรรมาธิการ (กมธ.)










