สภาฯ ปัดตก ‘ร่างรับรองอัตลักษณ์’ ที่เสนอ LGBT+ เปลี่ยนคำนำหน้าได้ สส.เพื่อไทย ชี้ต้องใช้เวลามากกว่านี้
วันนี้ (21 ก.พ. 67) เสียงส่วนใหญ่ของที่ประชุมสภาฯ มีมติไม่รับหลักการร่าง ‘พ.ร.บ.การรับรองเพศ คำนำหน้านาม และการคุ้มครองบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ’ ซึ่งเสนอโดย ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สส.พรรคก้าวไกล และคณะ โดยมีคะแนนเสียงเห็นชอบ 155 เสียง ไม่เห็นชอบ 257 เสียง และ งดออกเสียง 1 คน ไม่ลงคะแนนเสียง 1 คน จากจำนวนผู้ลงมติ 414 คน
สำหรับกฎหมายดังกล่าวที่เสนอโดย สส.พรรคก้าวไกล นั้นมีสาระสำคัญคือการให้ผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQI+) สามารถมีสิทธิ์เปลี่ยนคำนำหน้านามตามอัตลักษณ์ของตนเองได้ โดยจะต้องยื่นขอให้มีการรับรองเพศ
ในร่างดังกล่าวระบุถึงเหตุผลว่า เอกสารของรัฐไทยยังคงกำหนดให้ใช้คำนำหน้านามซึ่งถึงตามเพศกำเนิด ส่งผลให้บุคคลข้ามเพศและผู้มีความหลากหลายทางเพศอื่นประสบปัญหาในการแสดงตัวตน จึงสมควรให้มีมีกฎหมายรับรองเพศและคำนำหน้านาม รวมไปถึงการคุ้มครองบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ ตามหลักสิทธิมนุษยชน ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเมอภาคของบุคคล
อย่างไรก็ตามมี สส. บางส่วนที่ลุกขึ้นอภิปรายเห็นแย้ง โดยต้องการใช้เวลาพิจารณาให้ครบถ้วนรอบด้านมากยิ่งขึ้น อย่างเช่น อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่มองว่า “อย่าเหาะเกินลงกา อย่าไปไกลชนิดสุดลิ่มทิ่มประตู เพราะว่าเดี๋ยวจะมีปัญหาติดตามมา จะเป็นไปในลักษณะ สร้างปัญหาต่อ ก่อปัญหาใหม่”
ด้าน ศรัณย์ ทิมสุวรรณ์ สส.จังหวัดเลย พรรคเพื่อไทย ระบุว่าไม่ได้คัดค้านการที่จะมีกฎหมายรับรองเพศให้กับผู้ที่ไม่ได้อยู่ในระบบสองเพศ (Binary) แต่มองว่าต้องดูระเบียบเอกสารต่างๆ ในประเทศอื่นๆ ด้วย พร้อมระบุว่าทางรัฐบาลอยู่ระหว่างการจัดทำร่างอยู่เช่นกัน แต่สิ่งที่ทำให้ยังไม่สามารถเสนอได้คือข้อกังวลว่าผลที่จะเกิดขึ้นตามกฎหมายนี้จะให้สิทธิผูกพันไปถึงประเทศใดบ้าง หากไม่ทำให้ชัดเจนในรายละเอียด อาจต้องตามแก้เช่นกัน จึงควรใช้เวลาพูดคุยเรื่องนี้ให้มากกว่านี้ ประกอบกับให้รอร่างจากรัฐบาลและภาคประชาชนที่กำลังจัดทำอยู่เช่นกัน










