นายกฯ มองภาพรวมอภิปราย 2 วัน ดูดี มีติเพื่อก่อ ยันรัฐบาลใส่ใจ ดูแลประชาชนทุกที่อย่างทั่วถึง ลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ 2 รอบ หลัง สส. ติง จัดงบภาคใต้ไม่เท่าเทียม พร้อมลุกแจงสภาฯ ย้ำ ออก พ.ร.บ.เงินกู้ ใช้โครงการดิจิทัลวอลเล็ต ตาม ธปท. แนะนำ
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ ถึงภาพรวมการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) รายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ที่เริ่มดุเดือดขึ้น และพรรคประชาธิปัตย์ชี้เรื่องการจัดสรรงบประมาณในพื้นที่ภาคใต้ไม่เท่าเทียมว่า ภาพรวมเมื่อวานนี้ (4 ม.ค. 67) ดูดี เป็นไปในทางติเพื่อก่อ หลายเรื่องเราได้อธิบายพูดคุยและชี้แจงไป
ส่วนกรณีที่ สส.พรรคประชาธิปัตย์ระบุเรื่องการจัดงบภาคใต้นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องเข้าใจว่า งบฯ นี้ มีมรดกมา เราเองก็พยายามทำให้ดีที่สุด ส่วนเรื่องภาคใต้ ตนเชื่อว่าเป็นที่ประจักษ์ดีอยู่แล้ว ซึ่งในฐานะนายกรัฐมนตรีตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา ได้ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ 2 รอบ ลงไป จ.ภูเก็ต หลายหน แม้เรื่องของงบฯ จะเป็นตัวบ่งบอกว่า จะทำให้พื้นที่มีความมั่นคงมั่งคั่งเกิดขึ้นได้ แต่อีกเรื่องหนึ่งที่ไม่อยากให้ลืมไป คือ เรื่องการใส่ใจ รัฐบาลนี้จะดูแลประชาชนทุกที่อย่างทั่วถึง แล้ววันนี้ถ้ามีโอกาสตนจะขึ้นชี้แจงเพื่อให้เข้าใจถึงความตั้งใจจริงที่รัฐบาลนี้มีอยู่
“ผมในฐานะนายกรัฐมนตรี ภายใน 4 ปี ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทุกภาคจะดีขึ้นครับ” นายกรัฐมนตรี กล่าว
เมื่อถามว่า สิ่งที่ฝ่ายค้านอภิปรายมีจุดไหนที่เป็นประโยชน์และจะนำมาปรับ นายเศรษฐา กล่าวว่า มีหลายจุดและจะมานั่งประชุมกันอีกทีว่าจุดไหนที่จะนำมาปรับได้ และเวลาที่ตนขึ้นตอบข้อสงสัย ตนก็บอกจะว่า การน้อมรับ ในแง่การแบ่งสรรงบให้เป็นประโยชน์กับประชาชนสูงสุด ทั้งนี้ตนจะรับฟังและหากมีโอกาสก็จะขึ้นชี้แจง ซึ่งมีหลายมุมที่จะชี้แจงกับสมาชิกฝ่ายค้าน ทั้งเรื่องการจัดสรรงบไม่เป็นธรรม ตนว่าเราต้องมาโฟกัสกันที่จะทำอย่างไรมากกว่า ไม่ใช่เรื่องงบอย่างเดียว เรื่องการดูแลประชาชนทุกภาคส่วนให้มีความเท่าเทียมเสมอภาค ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น
เมื่อถามถึงกรณีที่ฝ่ายค้านนำคลิปที่นายกรัฐมนตรีเคยให้สัมภาษณ์ผ่านรายการโทรทัศน์ช่องหนึ่งว่า จะไม่กู้เงินเพื่อนำมาใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนทำตามคำแนะนำของผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า ให้ออกเป็น พ.ร.บ. ดีกว่า ซึ่งเวลาที่เราจะดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ตก็บอกให้รับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย รวมถึงเจ้าหน้าที่หน่วยงานหลัก ซึ่งตนก็ฟัง แล้วเมื่อวานนี้ (4 ม.ค. 67) ยังไม่มีเวลาที่ได้พบกับกฤษฎีกา แต่บ่ายวันนี้ (5 ม.ค. 67) คาดว่าจะได้เจอกับกฤษฎีกา










