เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (19 มิ.ย. 63) ธนาคารแห่งประเทศไทย ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย ระยะที่ 2 ลดเพดานดอกเบี้ย 2-4% ต่อปี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 63 – 31 ธ.ค. 64
- บัตรเครดิต ลดดอกเบี้ยจากเดิม 18% ต่อปี เหลือ 16% ต่อปี
- บัตรกดเงินสด ลดดอกเบี้ยจากเดิม 28% ต่อปี เหลือ 25% ต่อปี
- สินเชื่อส่วนบุคคล ลดดอกเบี้ยจากเดิม 28% ต่อปี เหลือ 25% ต่อปี
- สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ลดดอกเบี้ยจากเดิม 28% ต่อปี เหลือ 24% ต่อปี
- ขยายวงเงินบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ให้กับลูกหนี้ที่มีความจำเป็นต้องใช้วงเงินเพิ่มเติม มีประวัติชำระหนี้ดีต่อเนื่องและมีรายได้เฉลี่ยต่ำกว่า 30,000 บาท/เดือน โดยขยายวงเงินจากเดิม 1.5 เท่า เป็น 2 เท่าของรายได้เฉลี่ยต่อเดือน
นอกจากนี้ ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 และไม่เป็นหนี้เสีย (NPL) ณ วันที่ 1 มี.ค. 63 สามารถขอความช่วยเหลือเพิ่มเติม ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. – 31 ธ.ค. 63 จากสถาบันการเงินผ่านช่องทางต่างๆ เช่น แอปพลิเคชั่น เว็บไซต์ หรือ Call Center
- บัตรเครดิต สามารถขอเปลี่ยนเป็นสินเชื่อระยะยาว (Term Loan) 48 งวด ดอกเบี้ยไม่เกิน 12% ต่อปี หรือขอขยายเวลาชำระหนี้
- บัตรกดเงินสด ขอลดอัตราผ่อนขั้นต่ำ และขอเปลี่ยนเป็นสินเชื่อระยะยาว (Term Loan) 48 งวด ดอกเบี้ยไม่เกิน 22% ต่อปี หรือขอขยายเวลาชำระหนี้
- สินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ขอลดค่างวดอย่างน้อย 30% ดอกเบี้ยไม่เกิน 22% ต่อปี
- สินเชื่อเช่าซื้อรถทุกประเภท (ไม่จำกัดวงเงิน) ขอเลื่อนชำระค่างวด ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย 3 เดือน หรือลดค่างวดโดยขยายเวลาชำระหนี้
- สินเชื่อบ้าน (ไม่จำกัดวงเงิน) ขอเลื่อนชำระค่างวด ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย 3 เดือน หรือเลื่อนชำระเงินต้น 3 เดือน ลดดอกเบี้ยตามความเหมาะสม หรือลดค่างวดโดยขยายเวลาชำระหนี้
กรณีลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 จนไม่สามารถชำหนี้ได้ตามสัญญา สามารถขอปรับโครงสร้างหนี้ หรือได้รับผลกระทบจาก COVID-19 จนเป็นหนี้เสีย (NPL) แล้ว สามารถขอให้สถาบันการเงินพิจารณาชะลอการยึดทรัพย์
อ้างอิง
https://www.bot.or.th/Thai/PressandSpeeches/Press/2020/Pages/n3263.aspx
https://www.bot.or.th/Thai/FIPCS/Documents/FPG/2563/ThaiPDF/25630151.pdf
