กลุ่มหมอไม่ทน ร้องสถานทูตสหรัฐฯ ช่วยตรวจสอบ วัคซีนไฟเซอร์บริจาค ให้ถึงกลุ่มเสี่ยงและบุคลากรด่านหน้าได้จริง

กลุ่มหมอไม่ทน ร้องสถานทูตสหรัฐฯ ช่วยตรวจสอบ วัคซีนไฟเซอร์บริจาค ให้ถึงกลุ่มเสี่ยงและบุคลากรด่านหน้าได้จริง

COVID-19
กลุ่มหมอไม่ทน นำภาคีแพทย์ พยาบาล และบุคลากรสาธารณสุข ยื่นหนังสือถึงสถานทูตสหรัฐอเมริกา เรียกร้องให้ตรวจสอบการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์บริจาค ซึ่งขอให้ระบุเงื่อนไขเพื่อให้วัคซีนถึงกลุ่มเสี่ยงและบุคลากรด่านหน้าได้จริง
วันที่ 27 ก.ค.2564 กลุ่มแพทย์ในนามหมอไม่ทน, กลุ่มพยาบาลที่ร่วมกันขับเคลื่อนผ่านเพจเฟซบุ๊ก Nurses Connect, ภาคีบุคลากรสาธารณสุข และบุคลากรทางการแพทย์อีกหลายกลุ่ม รวมตัวกันบริเวณหน้าสถานทูตสหรัฐอเมริกา ยื่นหนังสือถึงสถานทูตสหรัฐอเมริกา ขอให้ช่วยตรวจสอบและระบุเงื่อนไขการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ 1.54 ล้านโดส ซึ่งคาดว่าจะมาถึงไทยในวันที่ 29 ก.ค. 2564 นี้ ให้บุคลากรหน้าด่านและกลุ่มเสี่ยง
นอกจากนี้ ยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยการจัดสรรวัคซีนอย่างโปร่งใส ไม่ให้ปกปิดข้อมูล หรือจัดสรรวัคซีนไปให้หน่วยงานอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง ไปจนถึงกลุ่ม VIP ด้วย ซึ่งมีผู้แทนฝ่ายการเมืองสถานทูตสหรัฐอเมริกามารับฟัง พร้อมรับหนังสือข้อเรียกร้อง
นพ.ย์ณัฐ ศิริรัตน์บุญขจร ตัวแทนเครือข่ายบุคลากรทางการแพทย์ กล่าวว่า ตัวแทนบุคลากรทางการแพทย์มีความกังวลเป็นอย่างมากต่อความโปร่งใสของรัฐบาลไทยในการจัดสรรวัคซีน หลังจากที่มีข่าวลือออกมาในหลายประเด็นจนเกิดความกังขาว่าวัคซีนอาจถูกจัดสรรให้กับบุคคลอื่นที่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งเป็นด่านหน้าเผชิญโรคก่อน จึงอยากให้ทางสถานทูตฯ ทราบถึงปัญหาความไม่โปร่งใสดังกล่าว
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า การยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงตัวแทนสถานทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย มองว่าการยื่นหนังสือทุกคนมีสิทธิ ซึ่งกระทรวงฯ ยืนยันว่า สามารถตรวจสอบได้ ไม่ว่าจะเป็นการสั่งซื้อวัคซีน รวมถึงเวชภัณฑ์ ส่วนการเรียกร้องให้เปิดเผยว่า มีบุคคลใดได้รับวัคซีนบ้างนั้นเป็นเรื่องของการแพทย์ ผู้ที่จะเปิดเผยได้คืออธิบดีกรมควบคุมโรค ส่วนตัวไม่ติดอะไร เพราะถ้ายิ่งเปิด ยิ่งทำให้โปร่งใส
TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มหมอไม่ทน ร้องสถานทูตสหรัฐฯ ช่วยตรวจสอบ วัคซีนไฟเซอร์บริจาค ให้ถึงกลุ่มเสี่ยงและบุคลากรด่านหน้าได้จริง