วิจัยพบ แค่ปลูกต้นไม้เพิ่มไม่พอช่วยลดโลกร้อน ลดการปล่อยมลพิษด้วยจำเป็นยิ่งยวด

วิจัยพบ แค่ปลูกต้นไม้เพิ่มไม่พอช่วยลดโลกร้อน ลดการปล่อยมลพิษด้วยจำเป็นยิ่งยวด

FEATURES

งานวิจัยพบว่าลำพังเพียงการปลูกต้นไม้เพิ่มเพื่อให้มาดูดซับ CO2 ไม่เพียงพออีกต่อไปสำหรับการต่อสู้ภาวะโลกร้อน โดยหากการปล่อยมลพิษทั่วโลกยังไม่ลดลง การจะจำกัดอุณหภูมิโลกให้สูงขึ้นไม่เกิน 2 องศาเซลเซียสก่อนยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม จะต้องใช้พื้นที่ปลูกต้นไม้ขนาดมหาศาลจนไม่มีทางเกิดขึ้นได้จริง

งานศึกษาชิ้นหนึ่งจาก Potsdam Institute for Climate Impact Research ในประเทศเยอรมนี ได้ทำการศึกษาโดยการใช้โปรแกรมจำลองว่า หากมนุษย์ต้องการจะจำกัดอุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกให้เพิ่มขึ้นจากช่วงก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรมไม่เกิน 2 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นเป้าหมายของข้อตกลงเรื่องโลกร้อนปารีส (The Paris Agreement) จะต้องใช้พื้นที่ในการปลูกต้นไม้ที่มีความสามารถในการดูดซับคาร์บอนสูง อย่างเช่นต้น poplar หรือหญ้าสวิตช์กราส (switchgrass) เท่าไหร่ จึงจะสามารถดูดซับ CO2 ในชั้นบรรยากาศได้มากพอที่จะป้องกันไม่ให้อุณหภูมิโลกสูงเกิน 2 องศาฯ ได้

งานวิจัยชิ้นดังกล่าวพบว่า ในกรณีที่ทั่วโลกไม่มีการลดการปล่อย CO2 เลย หากต้องการจำกัดไม่ให้อุณหภูมิสูงเกิน 2 องศาฯ จะต้องใช้พื้นที่ปลูกต้นไม้มหาศาลมากจนป่าในทฤษฎีที่เราต้องปลูกเพื่อช่วยลดปัญหาโลกร้อนนี้ ไปกินที่ระบบนิเวศวิทยาทางธรรมชาติทั่วโลกเดิมเกือบทั้งหมด กล่าวคือต้องใช้พื้นที่มหาศาลจนไม่มีทางเป็นไปได้

หรือกระทั่งในกรณีที่ทั่วโลกร่วมกันลดการปล่อยก๊าซ CO2 ได้ระดับหนึ่ง แต่ป่าที่มนุษย์ต้องร่วมกันปลูกขึ้นใหม่เพื่อให้มาช่วยดูดซับ CO2 ก็ยังจะกินพื้นที่มหาศาลอยู่ดี โดยจากงานวิจัยระบุว่าต้องใช้พื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 1 ใน 3 ของพื้นที่ป่าทั่วโลกปัจจุบัน และพื้นที่อีกกว่า 1 ใน 4 ของพื้นที่เกษตรกรรมทั่วโลกวันนี้ ในการปลูกป่าเพิ่มเพื่อให้มาช่วยดูดซับ CO2

ทั้งนี้ไม่ว่าในกรณีใด การปลูกป่าขนาดมหาศาลดังกล่าวไม่น่าเกิดขึ้นได้จริง หรือหากเกิดได้ก็จะต้องไปเบียดเบียนพื้นที่เกษตรกรรม ซึ่งก็จะทำให้เกิดปัญหาเรื่องการขาดแคลนอาหารขึ้นมาอีก

จากงานวิจัยชิ้นนี้ บทสรุปจึงมีเพียงแค่อย่างเดียว นั่นคือหนทางเดียวในการจำกัดภาวะโลกร้อนไม่ให้แย่เกินกว่าจะแก้ไขไม่ได้ ก็คือการต้อง “ลดการปล่อย CO2 ลงให้ได้อย่างมหาศาล” เพราะมีเพียงในกรณีนี้เท่านั้น ที่จะสามารถช่วยให้มนุษย์และโลกพ้นจากหายนะภาวะโลกร้อนที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ได้จริง 

ที่มา https://bit.ly/2ENJfDh

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง