เปิดกล่องบอร์ดเกมแล้วโยนลูกเต๋าทีไร เชื่อว่าใครหลายคนน่าจะตื่นตาตื่นใจกับการได้ฟาดฟันคู่แข่ง การได้แกล้งเพื่อนข้างๆ และการคิดหาวิธีในการเอาชนะรูปแบบที่เกมกำหนดไว้ แต่บอร์ดเกมเป็นได้มากกว่าแค่เกมกระดาน เพราะบอร์ดเกมเป็นพื้นที่การเรียนรู้รูปแบบหนึ่ง สามารถดึงผู้เล่นให้มีส่วนร่วมกับระบบที่ซับซ้อน และหลากหลาย เปิดโอกาสให้ได้เผชิญกับเหตุการณ์สมมติ และช่วยฝึกฝนการตัดสินใจให้แม่นยำขึ้น
ซึ่งทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นภายใต้ความสนุกสนานของความเป็นเกม ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญ คุณสมบัติเหล่านี้นี่แหละ ที่ทำให้บอร์ดเกมสามารถเป็น ‘ห้องเรียน’ ปัญหาสิ่งแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (climate change) ได้
[ จินตนาการผ่าน ‘เกม’ ไร้กรอบ ออกผลตอน ‘ลงมือจริง’ ]
เมื่อเราเจอข่าวน้ำท่วมหนัก ขยะล้นเมือง มลพิษทางอากาศ PM2.5 ฯลฯ เรามักจะรู้อยู่แก่ใจว่าต้องแก้ไขปัญหา แต่อาจจินตนาการไม่ออกว่าต้องลงมือปฏิบัติอย่างไร ซึ่งบอร์ดเกมจะเข้ามามีบทบาทในส่วนนี้
ทฤษฎีเกม magic circle อธิบายว่า เมื่อผู้เล่นก้าวเข้าสู่ magic circle แล้ว กฎเกณฑ์และความเป็นจริงในโลกปกติจะถูกระงับชั่วคราว ก่อนจะถูกแทนที่ด้วยกฎเกณฑ์ และความเป็นจริงตามเงื่อนไขของเกม
หากมองด้วยทฤษฎีนี้จะเห็นว่า บอร์ดเกมเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ทดลองกลยุทธ์ต่างๆ และรับผลกระทบจากการตัดสินใจนั้น ‘โดยไม่กระทบต่อชีวิตจริง’ ซึ่งเหมาะกับการสร้างความเข้าใจในปัญหาสิ่งแวดล้อม และ climate change เป็นอย่างมาก
ช่วงหลายปีที่ผ่านมา บอร์ดเกมจำนวนไม่น้อย (ทั้งจากนักออกแบบชาวไทยและชาวต่างชาติ) จึงเป็นบอร์ดเกมธีมสิ่งแวดล้อม กล่าวคือ วางระบบให้ผู้เล่นเรียนรู้ผลกระทบจากปัญหาสิ่งแวดล้อม และ climate change พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้เล่นคิดกลยุทธ์ เพื่ออยู่รอดและเดินหน้าต่อ ทั้งยังเป็นพื้นที่สนทนาให้ผู้เล่นถกเถียง แลกเปลี่ยน และเรียนรู้ไปด้วยกัน
[ ยังแก้ไขได้ไม่หมด ก็ต้อง ‘เรียงลำดับ’ ]
ตัวอย่าง บอร์ดเกม Catan: New Energies ภาคเสริมจากบอร์ดเกมยอดนิยม Catan เกมนี้เปิดโอกาสให้ผู้เล่นเลือกลงทุน ในโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่ยั่งยืน หรือโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงฟอสซิล ที่ราคาถูกแต่ก่อมลพิษ

CATAN – New Energies
ความพิเศษ คือ เกมอาจทำให้เกมจบลงก่อนเวลา หากผู้เล่นทุกคนสร้างโรงไฟฟ้าฟอสซิลเยอะเกินไป มลพิษก็จะสูงเกิน และเกมอาจจบก่อนเวลาได้ ซึ่งในกรณีที่จบก่อนเวลา ผู้เล่นที่ลงทุนในพลังงานหมุนเวียนได้ดีที่สุด จะเป็นผู้ชนะ
หรือบอร์ดเกม Solutions เกมนี้จะให้ผู้เล่นสุ่มการ์ดวิธีลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ก่อนหารือและจัดลำดับว่า ตัวเลือกใดดีกว่ากัน
ถ้าเลือกถูกอุณหภูมิโลกก็จะลดลง แต่ถ้าเลือกผิดโลกจะเสียหายมากขึ้น พูดง่ายๆ คือผู้เล่นต้องร่วมมือกันเพื่อวางกลยุทธ์ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโลก พร้อมจัดลำดับความสำคัญในการแก้ปัญหา
ไม่ใช่แค่บอร์ดเกมจากต่างประเทศเท่านั้นนะ บอร์ดเกมธีมปัญหาสิ่งแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสัญชาติไทยก็มีเหมือนกัน อย่าง บอร์ดเกม Waste War ที่สอนการแยกขยะซึ่งพบได้ในชีวิตประจำวัน เช่น กล่องอาหาร เครื่องดื่ม หลอดไฟ ไม้จิ้มฟัน เป็นต้น ซึ่งหากทิ้งผิดถังก็จะส่งผลต่อคะแนน หรือหากแยกขยะละเอียดมากขึ้นเท่าไหร่ โอกาสชนะของผู้เล่นก็มีมากขึ้นเท่านั้น
รวมถึงบอร์ดเกม Climate Change Awareness ที่จำลองโลกภายใต้แนวคิดทุนนิยม โดยผู้เล่นจะต้องสวมบทบาทเป็นผู้นำประเทศ วางแผนบริหารทรัพยากร และพัฒนาอุตสาหกรรม ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งในทุกการตัดสินใจอาจส่งผลกับการสร้างก๊าซเรือนกระจก อันกระทบกับอุณหภูมิโลกและประเทศได้

Climate Change Awareness
หลายคนอาจตั้งคำถามว่า บอร์ดเกมเหล่านี้จะสนุกจริงหรือ ในฐานะที่ผู้เขียนเคยเล่นบอร์ดเกมสิ่งแวดล้อมมาบ้าง ขอเป็นหนึ่งเสียงยืนยันว่า สนุกไม่แพ้บอร์ดเกมอื่น และเหมาะสำหรับผู้เล่นทุกประเภทอย่างแน่นอน (โดยเฉพาะสายชอบบริหารและวางแผน เพราะบางเกมต้องวางแผนไม่น้อย!)
บอร์ดเกมลักษณะนี้ เป็นสื่อการเรียนการสอน และใช้สื่อสารปัญหาสิ่งแวดล้อมและ climate change กับผู้คนวงกว้างได้ แถมยังปลูกฝังความตระหนักรู้ ผ่านความม่วนจอยอย่างการเล่นเกม อันเป็นการจุดประกายบทสนทนาในรูปแบบที่สนุกและน่าสนใจ
ที่สำคัญคือ บอร์ดเกมเปิดช่องให้ผู้เล่นได้ทดลองลงมือจริง และได้เผชิญกับความท้าทายที่อยู่เบื้องหน้า (โลกจะแตกแล้วนะ ถ้ายังเดินหมากสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินต่อไป!?)
และยังเปิดช่องให้ได้เรียนรู้ว่า โลกจริงนั้นแตกต่างจากเกมกระดาน เพราะโลกเรานั้นสามารถ ‘รีเซ็ต’ แล้วเริ่มต้นใหม่ได้อีกครั้ง
อ้างอิงจาก










