
กรณีที่ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ใน 2 ประเด็น คือ การที่คณะรัฐมนตรีถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนทำน้าที่ไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 161 และการแสดงแหล่งที่มาของรายได้ไม่ชัดเจนในการแถลงนโยบายรัฐบาล

วันที่ 8 ก.ย. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การที่รัฐบาลให้เวลาอภิปรายในวันที่ 18 ก.ย. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายในสมัยประชุมนี้ เชื่อว่ารัฐบาลมีเจตนาไม่บริสุทธิ์ และต้องการให้การอภิปรายญัตติดังกล่าวของพรรคร่วมฝ่ายค้านไม่ต่อเนื่อง ขาดเนื้อหาสาระสำคัญ เนื่องจากมีเวลาจำกัดต้องยุติก่อนเวลา 24:00 น.
นายจุลพันธ์ กล่าวด้วยว่า เชื่อว่าวันดังกล่าวจะมีการเล่นเกมในสภา โดยมีแนวโน้มว่าทางพรรคร่วมรัฐบาลจะมีการจัดทีม ส.ส. ประท้วงการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน จนทำให้การอภิปรายไม่ต่อเนื่องและไม่ได้สาระสำคัญ

ทั้งนี้ การกำหนดวันอภิปรายญัตติที่ฝ่ายค้านยื่นเป็นอำนาจของประธานสภาผู้แทนราษฎร จึงอยากให้นายชวน หลีกภัย ใช้อำนาจในการกำหนดวันอภิปรายมาเลยว่าวันไหน ตนมองว่าวันที่ 16 ก.ย. เหมาะสมเป็นผลดีต่อทุกฝ่าย ญัตติดังกล่าวเป็นญัตติที่สำคัญ ที่มีผลต่อการบริหารราชการแผ่นดิน และเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะไม่ให้ความสนใจไม่ได้ ควรจะเข้ามาทำหน้าที่เพราะประชาชนจะได้คำตอบจากนายกรัฐมนตรีโดยตรง

ด้านนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเศรษฐกิจเพื่อสังคม กล่าวถึง การอภิปรายฯ ว่า เชื่อว่าไม่มีปัญหาอะไร พล.อ.ประยุทธ์ จะไปตอบข้อซักถามด้วยตัวเอง และไม่จำเป็นต้องตั้งองครักษ์พิทักษ์นายกรัฐมนตรี หากฝ่ายค้านอภิปรายเกินเลยนอกประเด็น หรือผิดข้อบังคับ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลสามารถประท้วงให้เป็นไปตามข้อบังคับได้อยู่แล้ว
ส่วนกรณีเรื่องประชุมลับ นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ถ้าประชุมลับได้ก็เป็นเรื่องดี เพราะเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณนั้นอาจมีเนื้อหาที่กระทบกระเทือนในหลายมิติ แต่หากที่ประชุมเห็นว่าไม่ควรประชุมลับก็พร้อมเห็นด้วย

ทั้งนี้มีรายงานว่า นอกจาก พล.อ.ประยุทธ์ แล้ว ฝ่ายค้านจะอภิปราย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะมือกฎหมายคนสำคัญแต่ปล่อยให้มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น









