‘สมบูรณ์ เลขาฯ ชวน’ สมัครเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เสนอตัวลงส.ส.ตรัง เขต 4 ฐานเสียงเดิม
นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร และ อดีต ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ หลังลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ที่ผ่านมา
นายสมบูรณ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าชีวิตทางการเมืองจะต้องเดินไปข้างหน้า วันนี้ถือเป็นวันฤกษ์ดีจึงได้เดินทางสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยมีแนวคิดว่าการทำงานในที่ที่มีความสุขเป็นสิ่งที่ดีที่สุด และคิดว่าที่นี่จะเป็นที่ทำให้ตนทำงานได้อย่างมีความสุข จึงตัดสินใจที่จะมาร่วมงานกับพรรคเพื่อทำงานให้กับพี่น้องประชาชนชาว จ.ตรัง อีกครั้ง
จากที่ได้ติดตามนโยบายของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค และนายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค เห็นว่า ทั้ง 2 คน ประกาศแนวคิดที่เน้นเรื่องการสร้างความเป็นธรรม และเสมอภาคเท่าเทียมให้กับประชาชนทุกคน รู้สึกชื่นชมและเชื่อว่าเป็นสิ่งที่พี่น้องประชาชนทุกคนต้องการจึงอยากจะเป็นส่วนหนึ่งที่เข้ามาช่วยทำงานร่วมกับพรรค ที่ผ่านมาตนเคยได้มีโอกาสร่วมงานกับนายพีระพันธุ์ เมื่อสมัยที่เข้ามาเป็น ส.ส.ครั้งแรก เมื่อปี 2544 และได้เข้าไปอยู่ในคณะกรรมาธิการ(กมธ.) ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งนายพีระพันธุ์เป็นประธานอยู่ทำให้มีโอกาสร่วมทำงานด้วยกันหลายปี ทราบว่านายพีระพันธุ์เคยเป็นอดีตผู้พิพากษามาก่อน และเห็นว่าเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ เป็นผู้นำที่ดี โดยเฉพาะการตั้งใจทำงานในฐานะผู้แทนราษฎรที่มีแนวคิดและวิธีการนำเสนอที่ทำให้ตนประทับใจมาก ขณะที่นายเอกนัฎ ตนก็เห็นว่า เป็น ส.ส.รุ่นน้อง ที่เป็นคนหนุ่มไฟแรงมีความตั้งใจ ได้เห็นความมุ่งมั่นในการทำงานเพื่อสังคม ทำให้อยากมาร่วมงานด้วย
“ทั้งหมดทำให้เห็นได้ว่าภาพของพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นพรรคที่ทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง วันนี้ผมจึงตั้งที่จะมาร่วมทำพรรคการเมืองให้ก้าวสู่การเป็นสถาบันทางการเมือง ดูแลให้ความยุติธรรมกับพี่น้องประชาชน ซึ่งคิดว่าเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการมากที่สุดคือ การได้รับความเป็นธรรม” นายสมบูรณ์ กล่าว
โดย นายสมบูรณ์ จะเสนอตัวลง สมัคร ส.ส.ตรัง เขต 4 และมั่นใจว่า จะได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เพราะในการเลือกตั้ง 4 ครั้งที่ผ่านมาคะแนนของตนพัฒนาเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ โดยในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด เมื่อปี 2554 ตนเป็นผู้ที่ได้รับคะแนนเลือกตั้งสูงที่สุดใน จ.ตรัง ครั้งนี้จึงอยากขออาสาเข้าไปรับใช้พี่น้องชาว จ.ตรังอีกครั้งหนึ่ง
