‘เศรษฐา’ ต้อนรับ ‘ปธน.เยอรมนี’ หารือเอกชน นำเสนอข้อมูล ‘แลนด์บริดจ์’

‘เศรษฐา’ ต้อนรับ ‘ปธน.เยอรมนี’ หารือเอกชน นำเสนอข้อมูล ‘แลนด์บริดจ์’

การเมือง

‘เศรษฐา’ ต้อนรับ ‘ปธน.เยอรมนี’ หารือเอกชน นำเสนอข้อมูล ‘แลนด์บริดจ์’ ขณะที่ผู้นำเยอรมนี ยินดี ‘พิธา’ ได้คืนกลับเป็น สส. ถือเป็นสัญญาณที่ดี การเมืองไทย

วันนี้ (25 ม.ค. 67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง พร้อม พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน ภริยา ให้การต้อนรับ ดร.ฟรังค์-วัลเทอร์ ชไตน์ไมเออร์ (H.E.Dr. Frank-Walter Steinmeier) ประธานาธิบดีแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และภริยา ในโอกาสเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาล

การเยือนอย่างเป็นทางการครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกของประธานาธิบดีเยอรมนี ในรอบ 22 ปี ไทยกับเยอรมนี มีความสัมพันธ์กันมากว่า 162 ปี โดยเยอรมนีเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดในอียู (EU) ในขณะที่ไทยเป็นคู่ค้าอันดับที่ 3 ในอาเซียน ทั้ง 2ประเทศ ยังเห็นพ้องกำหนดเป้าหมายในการยกระดับความสัมพันธ์สู่การเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Partnership)

นอกจากนี้ ได้ให้ความสำคัญกับความร่วมมือด้านความยั่งยืน การรับมือกับภาวะโลกร้อน และการเปลี่ยนผ่านพลังงาน เพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ทั้งนี้ เยอรมนีพร้อมสนับสนุนเทคโนโลยีการผลิตพลังงานทดแทน เพื่อเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนในการผลิตไฟฟ้าเป็นร้อยละ 50 ภายในปี ค.ศ. 2040 และขยายการลงทุนในอุตสาหกรรม อีวี (EV) เพื่อให้ไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในระดับภูมิภาค รวมทั้งยังยินดีส่งเสริมการทำเกษตรแบบยั่งยืนในไทยอย่างต่อเนื่อง และพร้อมให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5

การเยือนไทยอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ ประธานาธิบดีเยอรมนียังได้นำคณะภาคเอกชนร่วมเดินทางมาด้วยประกอบด้วยผู้แทนจาก 12 บริษัท ใน 5 สาขา ได้แก่

1. สาขานิทรรศการงานแสดงสินค้านานาชาติ

2. อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์

3. พลังงานหมุนเวียนและสิ่งแวดล้อม

4. บริการ ดิจิทัลและการศึกษา

5. วัสดุก่อสร้าง การก่อสร้างและโครงสร้างพื้นฐาน

โดยในระหว่างการพบกับภาคเอกชน นายกฯ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับศักยภาพด้านเศรษฐกิจของไทยและโอกาสใหม่ๆ รวมทั้งยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายและโครงการต่างๆ อาทิ โครงการแลนด์บริดจ์ (Landbridge) โครงการยกระดับการขนส่งระบบรางและโลจิสติกส์ของไทย Ease of Doing Business และการสร้างทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะการเพิ่มพูนความร่วมมือด้านอาชีวศึกษา โดยภาคเอกชนแสดงความสนใจในด้านงานสินค้านานาชาติ การรีไซเคิลและการผลิตเม็ดพลาสติกจากขยะ ซึ่งไทยพร้อมพิจารณาเพื่อสนับสนุนการลงทุนจากเยอรมนีต่อไป

ส่วนความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรีขอการสนับสนุนสำหรับการเจรจากับสหภาพยุโรป เพื่อให้บรรลุขอยกเว้นตรวจลงตรา สำหรับการเดินทางเข้าเขตเชงเกนให้แก่ผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาไทย โดยไทยถือเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวชาวเยอรมันชื่นชอบ มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยเมื่อปี พ.ศ. 2566 กว่า 700,000 คน และชาวเยอรมันได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา 30 วันแล้วด้วย

เย็นวันนี้ ประธานาธิบดีเยอรมนี ยังมีกำหนดเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และจะไปเยี่ยมชมโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำไฮบริด เขื่อนสิรินธร และโครงการเกษตรยั่งยืนที่เป็นความร่วมมือระหว่างเยอรมนีกับไทย รวมทั้งเยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติผาแต้มในวันพรุ่งนี้ (26 ม.ค. 67) ซึ่งนายกรัฐมนตรีหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะเป็นโอกาสเปิดศักราชความสัมพันธ์และความร่วมมือ นำไปสู่ความร่วมมือที่ใกล้ชิด เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายในทุกมิติอย่างแน่นแฟ้น

ขณะที่ นายเศรษฐา นายรัฐมนตรี มีกำหนดจะเดินทางเยือนเยอรมนีอย่างเป็นทางการ ในเดือนมีนาคมนี้ เพื่อสานต่อและผลักดันความร่วมมือ นำไปสู่การสถาปนาความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกันต่อไป

‘ปธน.เยอรมนี’ ยินดี ‘พิธา’ หลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินคดีหุ้นไอทีวี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงร่วมของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง และ ดร.ฟรังค์-วัลเทอร์ ชไตน์ไมเออร์ ประธานาธิบดีแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ทางประธานาธิบดีแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ยังได้กล่าวว่า ได้มีการหารือเรื่องสิทธิบทบาทของภาคประชาสังคม ตนรู้สึกยินดีภายหลังได้รับฟัง คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณีคดีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โดยคำพิพากษา ถือว่า ออกมาถือเป็นสัญญาณที่ดี ในการดำเนินการทางการเมืองที่ดีของไทย

ภาพจาก สำนักโฆษกฯ ทำเนียบรัฐบาล

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง