รัฐยันเร่งแก้ปัญหา ‘อาชญากรรมออนไลน์’ อายัดบัญชีม้าแล้ว 5.8 หมื่นบัญชี

รัฐยันเร่งแก้ปัญหา ‘อาชญากรรมออนไลน์’ อายัดบัญชีม้าแล้ว 5.8 หมื่นบัญชี

ในประเทศ

รองโฆษกรัฐบาล เผย หน่วยงานรัฐบูรณาการเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ ปี 2565 อายัดบัญชีม้า 5.8 หมื่นบัญชี เว็บพนันเกือบสองพันเว็บ

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการดำเนินการภาครัฐที่เร่งแก้ไขแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ ผ่านการบูรณาการหลายหน่วยงาน มีกลไกความร่วมมือระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานกสทช. สำนักงานปปง. ธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นต้น จนสามารถดำเนินคดีผู้กระทำผิดจำนวนมาก 

เช่น ในปี 2565 ดำเนินคดีแก๊ง Call Center ในต่างประเทศ 8 ครั้ง จับกุมผู้ต้องหา 166 คน ทำการปิดกั้นการโทรหลอกลวง/ข้อความ SMS หลอกลวง จำนวน 118,530 หมายเลข ทำการอายัดบัญชีม้าจำนวน 58,463 บัญชี ปิดกลุ่มโซเชียลมีเดียซื้อขายบัญชีม้า จำนวน 8 กลุ่ม และปิดกั้นเว็บพนันจำนวน 1,830 เว็บ 

น.ส.รัชดา กล่าวต่อว่า สำหรับการแก้ปัญหาบัญชีม้าและบัญชีต้องสงสัยจะนำไปใช้กระทำผิดกฎหมาย สำนักงาน ปปง. ได้จัดทำประกาศ หลักเกณฑ์ในการพิจารณากำหนดหรือทบทวนรายชื่อบุคคลที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งควรได้รับการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดตามกฎกระทรวงการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า พ.ศ. 2563 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ซึ่งจะทำให้การดำเนินการในเรื่องนี้ประสิทธิภาพมากขึ้น

ขณะเดียวกันสำนักงาน กสทช. ได้มีมาตรการแก้ปัญหา SIM ผิดกฎหมาย โดยให้ผู้มี 100 SIM ขึ้นไป ซึ่งมีอยู่ประมาณ 8,000 ราย ยืนยันตัวตนให้ถูกต้องภายใน ม.ค. 66 ทั้งนี้ เพื่อตัดวงจรการที่มิจฉาชีพใช้ SIM เติมเงินโทรไปหลอกลวงประชาชน (Call Center) และทำธุรกรรมการเงินออนไลน์ มากไปกว่านั้นได้มีแผนงาน กรณีผู้มี 100 ซิมขึ้นไป ประมาณ 8,000 ราย ยืนยันตัวตนให้ถูกต้องภายใน ม.ค. 66 ทั้งนี้ เพื่อตัดวงจรการที่มิจฉาชีพใช้ SIM เติมเงินโทรไปหลอกลวงประชาชน (Call Center) และทำธุรกรรมการเงินออนไลน์

น.ส.รัชดา กล่าวต่อว่า เพื่อให้การแจ้งความคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสะดวกต่อผู้เสียหาย ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้พัฒนาระบบการรับแจ้งความออนไลน์ www.ThaiPoliceOnline.com ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนได้เข้าถึงกระบวนการสืบสวนสอบสวนอย่างทั่วถึง นับตั้งแต่วันที่ระบบเริ่มใช้งาน 1 มี.ค. 65 ถึง 31 ธ.ค. 65 รวม 10 เดือน มีผู้เข้ามาแจ้งความจำนวน 163,091 คดี คิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 27,305 ล้านบาท โดยเฉลี่ยมีความเสียหายวันละ 91 ล้านบาท และมีแนวโน้มการเกิดคดีสูงขึ้นทุกเดือน ซึ่งแบ่งเป็นกลุ่ม ดังนี้

1.คดีที่ผู้กระทำความผิดอยู่ในประเทศไทย ได้แก่ การซื้อขายสินค้าหรือบริการผ่านทางออนไลน์แต่ไม่รับสินค้า การปล่อยกู้ผ่านแอปฯ นอกระบบ การลงทุนแบบแชร์ลูกโซ่ เป็นต้น มีสถิติการรับแจ้งประมาณร้อยละ 40.5 ของคดีทั้งหมด ความเสียหายรวมประมาณ 1,230 ล้านบาท

2.คดีที่ผู้กระทำความผิดอยู่ต่างประเทศ และมีคนไทยร่วมขบวนการ โดยเดินทางไปทำงานผ่านช่องทางธรรมชาติ เพื่อไปทำหน้าที่เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงคนไทยผ่านทางออนไลน์ด้วยวิธีการต่างๆ ซึ่งเป็นกลุ่มคดีที่มีมูลค่าความเสียหายมากที่สุด ประมาณร้อยละ 51 มูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 15,800 ล้านบาท

3.คดีอื่นๆ ที่เหลือประมาณร้อยละ 8.5  ได้แก่ แฮ็กระบบคอมพิวเตอร์ การเรียกค่าไถ่ทางคอมพิวเตอร์ การคุกคามทางเพศ หลอกให้ไปทำงานต่างประเทศ เป็นต้น

“รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างที่สุด และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้บูรณาการการทำงานเพื่อป้องกัน ยับยั้ง และปราบปราม ปัญหาดังกล่าว อีกทั้งยังได้ออกมาตรการเชิงรุกเพื่อแก้ปัญหาบัญชีม้าซึ่งเป็นตัวการสำคัญของอาชญากรรม รวมถึงสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อยับยั้งและจับกุมผู้กระทำผิด 

โดยได้มีการประชุมระหว่างหน่วยงานเพื่อพิจารณาการแก้กฎหมายเพื่อแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการใช้โปรไฟล์ของบุคคลอื่น การรับจ้างเปิดซิมผีและบัญชีม้า การซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลแบบ P2P เป็นต้น ทั้งนี้ ประชาชนสามารถโทรแจ้งเบาะแสการกระทำผิดได้ที่หมายเลข 1212 หรือประสงค์แจ้งความออนไลน์ได้ที่ www.ThaiPoliceOnline.com ตลอด 24 ชั่วโมง” นางสาวรัชดา กล่าว

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง