ครม. รับทราบ ‘ค่าไฟ’ ปีหน้า ม.ค.-เม.ย. 67 ไม่เกิน 4.20 บาทต่อหน่วย ตรึงราคาดีเซลไม่เกินลิตรละ 30 บาท
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยในวันนี้ (19 ธ.ค. 66) ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี รับทราบตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ให้ตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร และค่าไฟฟ้างวดใหม่ เดือนมกราคม – เมษายน 2567 ให้ไม่เกิน 4.20 บาทต่อหน่วย ซึ่งต้องรอดูราคาค่าก๊าซว่า จะปรับลดลงอีกหรือไม่ เชื่อว่า จะเป็นข่าวดีที่จะได้ราคาต่ำกว่า 4.20 บาท
ขณะที่ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ได้เสนอมาตรการเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน โดยจะตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร เป็นเวลา 3 เดือน ค่าก๊าซแอลพีจี (LPG) และก๊าซหุงต้ม ตรึงไว้ที่ 423 บาทต่อ 15 กิโลกรัม เป็นเวลา 3 เดือน ซึ่งเคยเป็นมาตรการเดิม ที่เคยช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางไปแล้ว
ขณะที่ ค่าไฟฟ้า สำหรับกลุ่มเปราะบางที่ใช้ไฟไม่เกิน 300 บาทต่อหน่วย ตรึงราคาค่าไฟ ที่ 3.99 บาทต่อหน่วย ซึ่งจะช่วยเหลือได้ 17 ล้านราย ส่วนกลุ่มภาคครัวเรือน ไม่สามารถยืนอยู่ที่ 3.99 บาทต่อหน่วยได้ แต่รัฐบาลได้พยายามเต็มที่ ไม่ให้เกิน 4.20 บาทต่อหน่วย ส่วนจะได้ตัวเลขได้เท่าไร ขอดูตัวเลขวันที่ 1 ม.ค. 67 ก่อน เพราะพบว่า มีแนวโน้มราคาก๊าซในตลาดโลกเริ่มลดลง ดังนั้น ณ วันที่ 1 ม.ค. อาจต่ำกว่าราคาในวันนี้
นายพีระพันธุ์ กล่าวด้วยว่า มาตรการที่ออกมาถือเป็นมาตรการระยะสั้น ภายใต้โครงสร้างเดิมที่ใช้มานานกว่า 40 ปี ส่วนตัวคิดว่าไม่เหมาะสม ซึ่งตนได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษารื้อระบบโครงสร้างราคาค่าไฟและน้ำมันแล้ว และกำลังดำเนินการอยู่ และถือเป็นมาตรการระยะยาวที่ต้องใช้เวลา ระหว่างนี้ที่รอมาตรการระยะยาวสิ่งไหนทำได้ก็ทำก่อนภายใต้โครงสร้างแบบเดิม และทำให้ดีที่สุดทุกเรื่อง เพื่อลดภาระค่าครองชีพประชาชน
นายพีระพันธุ์ ยังชี้แจงด้วยว่า ที่ไม่สามารถกำหนดที่ชัดเจนได้ว่า การผลิตไฟฟ้ามีวัตถุดิบที่นำมาผลิตไฟฟ้า 3 อย่างหลักๆ คือ
1. ถ่านหิน ซึ่งไทยยังมีใช้อยู่ เป็นราคาที่ถูกที่สุดและมีการใช้พลังน้ำบ้างบางส่วน
2. ผลิตจากก๊าซธรรมชาติ ซึ่งยังเป็นประเด็นใหญ่ในวันนี้
3. พลังงานสะอาด จากพลังงานแสงแดด ลม ชีวมวลต่างๆ
โดยทั้ง 3 อย่างคือ วัตถุดิบในการผลิตไฟฟ้าและมีต้นทุนแตกต่างกัน ที่สำคัญมีสัญญาเดิมที่ทำไว้กับผู้ประกอบการระยะเริ่มต้น เมื่อหลาย 10 ปีที่แล้ว ตนกำลังแก้ไขอยู่ รวมถึงแก้ไขโครงสร้างของก๊าซที่ต้องปรับรูปแบบจะดำเนินการอย่างไร ให้หลุดบ่วงราคาตลาดโลก ซึ่งถือเป็นแนวโน้มในการวางระบบและโครงสร้างใหม่ของด้านวัตถุดิบที่ใช้ผลิตไฟฟ้า
“หากควบคุมตรงส่วนนี้ได้ ทำให้ราคาวัตถุดิบอยู่ภายใต้การควบคุมรัฐบาลมากขึ้น สามารถทำให้ลดราคาไฟฟ้าลงมาได้โดยระบบของมันเอง ไม่ใช่แบบมติครม. แต่ต้องใช้เวลาในการศึกษารูปแบบ ผลกระทบ รวมถึงส่วนที่เกี่ยวข้องต้องรับฟังความคิดเห็น ซึ่งจะพยายามให้เป็นรูปเป็นร่างภายในปี 2567 นี้” นายพีระพันธุ์ กล่าว
นายพีระพันธุ์ กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรี เตรียมพบหารือกับนายฮุน มาเนตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในปี 2567 นี้ จะมีการหารือเรื่องพื้นที่ทับซ้อนทางพลังงานระหว่างไทยกับกัมพูชาหรือไม่ว่า เรื่องนี้ต้องดำเนินการต่อ เพราะเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขและผ่านมาหลายรัฐบาลแล้ว ส่วนตัวมองว่า จะเอาเรื่องเขตแดนกับเรื่องพลังงานมารวมกันจะหาข้อยุติได้ยาก เพราะเรื่องเขตแดนเป็นเรื่องต้องใช้เวลา การเจรจาเรื่องเขตแดนไม่มีประเทศใดในโลกตกลงถอยหลังกันได้ง่าย แต่ไทยต้องมีความพยายามหาทางยุติลงให้ได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นห่วงในเรื่องนี้ และตนก็เป็นกังวล เนื่องจากอยากใช้พลังงานในพื้นที่ตรงนั้น เพราะก๊าซธรรมชาติที่ไทยมีก็หมดไปทุกวัน หากไม่มีแหล่งใหม่มาเสริมหรือรองรับก็จะเป็นปัญหาต่อไปในอนาคต ดังนั้นเรื่องนี้เป็นสำคัญในการเจรจา
‘เศรษฐา’ รับรู้สึกกดดัน คนทวงเงิน ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ รับไม่ได้ค่าไฟปีหน้าจะขึ้น 4.68 บาท










