‘พิธา’ เผยก่อนฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าผลตัดสินจะเป็นคุณหรือโทษ จะเดินหน้าทำงานเพื่อประชาชน

‘พิธา’ เผยก่อนฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าผลตัดสินจะเป็นคุณหรือโทษ จะเดินหน้าทำงานเพื่อประชาชน

การเมือง

‘พิธา’ เผยก่อนฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าผลตัดสินจะเป็นคุณหรือโทษ จะเดินหน้าทำงานเพื่อประชาชน ย้ำมั่นใจข้อเท็จจริง-ความบริสุทธิ์

ภาพ ธนัญชัย แก้วโสวัฒนะ / Thai News Pix

วันนี้ (24 ม.ค. 67) เวลา 12.45 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อและประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางมาถึงสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมนายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล

โดยนายพิธา ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในประเทศและต่างประเทศ สรุปได้ว่า มั่นใจในข้อเท็จจริงและความบริสุทธิ์ ได้เตรียมตารางและแผนดำเนินการตลอดทั้งปีแล้วไม่ว่าผลจะออกมาเป็นคุณหรือเป็นโทษ

“ยังมั่นใจตามบรรทัดฐานของคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญเอง หรือศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง หรือศาลปกครองสูงสุด ถ้าใครได้ลงดูในรายละเอียด ก็คงจะเห็นแล้วครับว่า การที่จะเป็นสื่อมวลชนต้องมีใบประกอบกิจการหรือว่ามีข้อแม้อะไรอย่างไรบ้าง ซึ่งเราได้นำข้อเสนอนี้ สู้ในชั้นศาลไปแล้ว ก็คงลงรายละเอียดไปมากกว่านี้ไม่ได้ครับ” นายพิธา กล่าวตอนหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ยังมีความกังวลใจอะไรบ้างหรือไม่ นายพิธา ตอบว่า “ไม่มีเลยครับๆ ไม่ว่าจะข้อเท็จจริงในอดีต แล้วก็สถานการณ์ในปัจจุบัน แล้วก็เรื่องในอนาคต ก็อยากที่บอกว่า ยังไงก็ทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนเป็นนักการเมืองเหมือนเดิม มีแผนตลอดทั้งปีแล้ว ซึ่งก็คงจะใช้เวลาอีกไม่นาน ผมได้รับมอบหมายจากหัวหน้าพรรคชัยธวัชว่า ให้ทำโรดแมป ของพรรคก้าวไกลในการทำงานปีที่จะถึงนี้ มีแผนรองรับเรียบร้อย ก็ประชาชนไม่ต้องกังวลนะครับ”

เมื่อถามว่า ดูเหมือนมั่นใจมากสิ่งแรกที่จะทำหลังคำวินิจฉัยคืออะไร นายพิธา ตอบว่า “ก็คงเตรียมการแถลงครับ เตรียมการแถลงโรดแมปการทำงานของพรรคก้าวไกล และก็มีแขกจากต่างประเทศมาพรุ่งนี้ และเสาร์อาทิตย์ลงพื้นที่ครับ”

“กราบขอบพระคุณสำหรับทุกกำลังใจ ที่ให้พวกเราพรรคก้าวไกล ตลอดมา ยังไงก็จะไม่ทำให้ทุกท่านผิดหวังแน่นอนครับ” นายพิธา กล่าวตอนหนึ่งกับมวลชน

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีนี้ต่างจากคดีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวไกล ถือหุ้นวี-ลัค มีเดียฯ อย่างไร นายพิธา ตอบว่า “…ตอนนั้นศาลท่านเห็นว่า มีใบประกอบการกิจการสามารถมาผลิต นิตยสารได้ใช่ไหม แต่กรณีของไอทีวี ถามกสทช.แล้ว ไม่มี licence และไม่มีคลื่นความถี่ ที่กลายเป็นของไทยพีบีเอสแล้ว ไม่สามารถกลับมา ทำธุรกิจตั้งต้นได้ อย่างไรก็ตามไม่ว่าไอทีวีจะกลับมา หรือไม่กลับมา มันเป็นเรื่องของอนาคตไม่ควรจะขาดกัน กับวันที่ผมได้ปันทรัพย์ให้กับน้องชายไปแล้ว ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับผมแล้ว ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในอนาคต”

เมื่อถามว่า หากได้กลับเข้าสภาฯ กระบวนการกลับเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกลจะเร็วหรือช้าอย่างไร นายพิธา ตอบว่า ทั้งตนและนายชัยธวัช เชื่อว่าไม่มีใครยึดติดกับตำแหน่ง เราแค่ต้องการทำงาน และต้องฟังการประชุมวิสามัญของพรรคก้าวไกล ในเดือนเมษายนนี้

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง