ครม.อนุมัติ เลื่อนบังคับใช้ มาตรา 22-25 กฎหมายป้องกันปราบปรามการทรมานและทำให้บุคคลสูญหาย จากมีผล 22 ก.พ.นี้ เป็น 1 ต.ค. 66 เหตุหน่วยงานระดับปฏิบัติยังไม่พร้อม โดยเฉพาะเรื่องจัดซื้ออุปกรณ์

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (14 ก.พ. 66) ว่า ครม. ได้เห็นชอบ ร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) แก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 พ.ศ. …. ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565
เพื่อขยายกำหนดเวลามีผลใช้บังคับ เฉพาะมาตรา 22 มาตรา 23 มาตรา 24 และมาตรา 25 ออกไป ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 66 เป็นต้นไป จากเดิมที่เริ่มจะมีผลบังคับใช้วันที่ 22 ก.พ.นี้
สำหรับมาตราที่ได้ขยายเวลาการบังคับใช้ออกไป มีสาระสำคัญ ดังนี้
– มาตรา 22 การควบคุมตัว เจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้รับผิดชอบต้องบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องในขณะจับและควบคุมจนกระทั่งส่งตัวให้พนักงานสอบสวนหรือปล่อยตัวบุคคลดังกล่าว
– มาตรา 23 การควบคุมตัว เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับผิดชอบต้องบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถูกควบคุมตัว
– มาตรา 24 การเข้าถึงข้อมูลของผู้ถูกควบคุมตัว
– มาตรา 25 การไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถูกควบคุมตัว กรณีอยู่ภายใต้การคุ้มครองของกฎหมายละเมิดต่อความเป็นส่วนตัว เกิดผลร้ายต่อบุคคล หรือเป็นอุปสรรคต่อการสืบสวนสอบสวน
สำหรับความจำเป็นที่ต้องขยายเวลาบังคับใช้ มาตรา 22 – 25 นั้น น.ส.รัชดา ได้เปิดเผยว่า เนื่องจากจะต้องปรับปรุงการดำเนินการ บทบาท และหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ในกระบวนการยุติธรรมระดับหน่วยปฏิบัติ อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ,กรมการขนส่งทางบก, กรมสอบสวนคดีพิเศษ, สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) ซึ่งขณะนี้ยังมีข้อขัดข้องที่ต้องดำเนินการเพิ่มเติม อาทิ
การจัดซื้อกล้องติดตัวเจ้าหน้าที่เพิ่มเติม 1.71 แสนตัว, กล้องติตรถยนต์ควบคุมผู้ถูกจับ 1,578 ตัว และกล้องติดสถานที่ควบคุมผู้ถูกจับกว่า 6,000 ตัว รวมถึงการจัดทำระบบจัดเก็บข้อมูล หน่วยความจำ ระบบ Cloud โดยต้องดำเนินการจัดซื้อด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-bidding ซึ่งต้องใช้ระยะเวลา
และการเตรียมความพร้อมของบุคลากร ที่ต้องฝึกอบรมบุคลากรในใช้งานอุปกรณ์บันทึกภาพและเสียง ซึ่งมีหลากหลายยี่ห้อและวิธีการใช้งานแตกต่างกัน จึงจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาเพื่อให้เกิดความเชี่ยวชาญในการใช้งานและสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดังนั้น ครม. จึงเห็นชอบการขยายเวลาการบังคับใช้ในมาตราดังกล่าว เพื่อให้หน่วยงานรัฐและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องมีความพร้อมทั้งด้านอุปกรณ์และแนวทางปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน และป้องกันการกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐดำเนินการจับกุมไม่เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย ซึ่งอาจส่งผลต่อการดำเนินคดีในชั้นศาลได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ไทยสร้างไทย ดักคอ ครม.อังคารนี้ จับตาจะเลื่อนบังคับใช้ พ.ร.บอุ้มหายฯ หรือไม่
ตร.ทำหนังสือแจ้งกระทรวงยุติธรรม ขยายเวลาบังคับใช้ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ เหตุงบประมาณ-บุคลากร ไม่พร้อม










