เปิดเงื่อนไข ‘ขอพักโทษ’ โฆษกราชทัณฑ์ เผย ‘ทักษิณ’ ยังไม่เข้าเกณฑ์ ต้องจำคุกก่อน 6 เดือนขึ้นไป
นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความประจำตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “ความจริงเรื่องพักโทษ ผมในฐานะทนายความไม่ได้ยื่นเรื่อง แต่จะเป็นเรื่องที่เรือนจำและราชทัณฑ์เป็นคณะทำงานพิจารณาว่าเข้าเกณฑ์หรือไม่อยู่แล้วครับ”
เปิดเงื่อนไข ‘ขอพักโทษ’ สำนักข่าว TODAY สรุปจากคำให้สัมภาษณ์ของนายสิทธิ สุธีวงศ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ จากสื่อหลายสำนัก
การขอพักโทษ เป็นกระบวนการที่เรือนจำจะเป็นผู้พิจารณายื่นเรื่องให้กรมราชทัณฑ์พิจารณา ซึ่งทางเรือนจำจะสามารถยื่นรายชื่อบุคคลที่จะดำเนินการพักโทษได้ จะต้องพิจารณาจากคุณสมบัติของนักโทษรายนั้น โดยแบ่งเป็น 2 กรณี คือ
1. แบบปกติ นักโทษรายนั้นๆ จะต้องโทษจำคุกไม่ต่ำกว่า 2 ใน 3 ของโทษจำคุกที่ได้รับ
2. แบบพิเศษ มีเกณฑ์แยกย่อย 3 ข้อ คือ
– จะต้องเป็นนักโทษที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป
– มีภาวะป่วยชราภาพ
– ต้องโทษไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของโทษจำคุก หรือต้องโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป
ในกรณีของนายทักษิณ สามารถเข้าเกณฑ์ได้ทั้งแบบปกติและแบบพิเศษก็ได้ เพราะนายทักษิณเอง ถือเป็นผู้ต้องขังสูงอายุมากกว่า 70 ปีขึ้นไปและป่วยร่วมด้วย
สำหรับขั้นตอนแรกในโครงการพักการลงโทษนั้น จะเป็นทางเรือนจำที่ทำหน้าที่สำรวจรายชื่อผู้ต้องขังที่เข้าเกณฑ์ และพิจารณาจากคุณสมบัติของนักโทษรายนั้นว่า เข้าเกณฑ์แบบปกติหรือแบบพิเศษ
ปัจจุบันนายทักษิณได้รับการอภัยลดโทษ เหลือจำคุกเพียง 1 ปี ดังนั้น 1 ใน 3 ที่นี้ก็คือ 4 เดือน แต่ตามกฎหมายมีการระบุว่าหรือ 6 เดือน อย่างใดอย่างหนึ่งมากกว่า ซึ่งหมายความว่า นายทักษิณ จะต้องจำคุกมาแล้วอย่างน้อย 6 เดือน การยื่นมาก่อนก็ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้เพราะยังไม่เข้าเกณฑ์ จึงทำให้กรณีของนายทักษิณ โทษจำคุกจะไปสิ้นสุดอยู่ที่ห้วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี พ.ศ. 2567
นายสิทธิ ระบุด้วยว่า นายทักษิณจะถูกพิจารณาพร้อมกับผู้ต้องขังเด็ดขาดรายอื่นๆ เนื่องจากทางเรือนจำจะมีการเสนอเรื่องขึ้นมาแล้วจึงจะมีการประชุมร่วมกันของคณะกรรมการพักการลงโทษของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งจะมีประชุมเดือนละ 1 ครั้ง
“หากนายทักษิณเข้าเกณฑ์ได้รับการพักการลงโทษ ทางเรือนจำก็จะมีการแจ้งไปยังทนายความประจำตัวของผู้ต้องขัง รวมถึงผู้ต้องขังเองด้วย เพื่อแจ้งเงื่อนไขให้ทราบว่า นักโทษจะต้องรู้คุณสมบัติของตัวเอง แล้วก็ต้องเตรียมเอกสาร อีกทั้งจะมีการสัมภาษณ์ เพราะผู้ต้องขังเด็ดขาดแต่ละรายที่ผ่านเกณฑ์จะต้องเข้าให้การสัมภาษณ์กับทางเรือนจำ เพื่อทางเรือนจำได้ดูตัวและสอบถามพูดคุยว่าครบเกณฑ์หรือไม่ และยังมีกระบวนการอื่นๆ อีกมาก” โฆษกกรมราชทัณฑ์ ระบุ











