‘คปท.’ บุกยื่นหนังสือ สว. ให้ตรวจสอบ ‘ทักษิณ’ รักษาตัวนอกเรือนจำ ใกล้ครบ 120 วัน ด้าน ‘สว.ประพันธ์’ จวก ทำร้ายบ้านเมือง-จิตใจประชาชน

นายพิชิต ไชยมงคล ตัวแทนเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. เข้ายื่นหนังสือถึง นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) สิทธิมุนษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ในวันนี้ (20 ธ.ค. 66) เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกจากเรือนจำและรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 ใกล้ครบกำหนด 120 วันว่า ป่วยจริงและเป็นไปตามหลักสากลหรือไม่
นายพิชิต กล่าวว่า ที่ผ่านมาโรงพยาบาลตำรวจ กรมราชทัณฑ์ และกระทรวงยุติธรรม ไม่สามารถสร้างความกระจ่างให้กับสังคมได้ เราจะขอสำเนาการประชุม กมธ.สิทธิมนุษยชนฯ ที่มีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงร่วมด้วย เพราะเชื่อมั่นว่า จะเป็นหลักฐานชิ้นดี ที่จะทำให้เราสามารถนำไปยื่นฟ้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการเอื้อประโยชน์ให้กับบุคคลหนึ่งได้ เพื่อให้เห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นสวนทางกับข้อเท็จจริงอย่างไร
ขณะที่ สว.สมชาย กล่าวว่า กมธ.สิทธิมนุษยชนฯ และกมธ.การสาธารณสุข ได้รับเรื่องเข้าระบบของวุฒิสภาแล้ว จึงขอชี้แจงว่า ที่ผ่านมาเราได้เชิญ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ รองนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ และผู้เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงข้อมูลถึง 2 ครั้งแล้ว แต่ยังมีบางประเด็นที่ยังมีข้อสงสัย โดยอ้างเรื่อง พ.ร.บ.กรมราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 และกฎกระทรวงยุติธรรม พ.ศ.2563 รวมถึงความเห็นจากสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ฉะนั้นในวันที่ 25 ธ.ค. นี้ เวลา 13.30 น. กมธ.สิทธิมนุษยชนฯ จะเชิญ พ.ต.อ.ทวีสอดส่อง รมว.ยุติธรรม ปลัดกระทรวงยุติธรรม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงเพิ่มเติม เกี่ยวกับการออกระเบียบกรมราชทัณฑ์ และการปฏิบัติกรณีอยู่นอกเรือนจำครบ 120 วันว่า ระเบียบออกมาเอื้อบุคคลใด และจะให้รักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจต่อหรือไม่ เพราะ กมธ. เคยสอบถามข้อเท็จจริงไปแล้ว แต่กลับได้รับคำตอบว่า ผู้ป่วยไม่อนุญาตให้ชี้แจง ตามสิทธิรัฐธรรมนูญที่มี
“ก่อนเดินทางกลับเข้าประเทศไทยทุกคนทราบดีว่า อดีตนายกรัฐมนตรีมีเพียง 4 โรค เท่านั้น ประกอบด้วย ความดันโลหิตสูง โรคปอด ข้อกระดูกเสื่อม และเส้นโลหิตตีบ เราจึงให้ กมธ.สาธารณสุขฯ ไปตรวจสอบต่อ ส่วนเรื่องการรักษาตัว รองนายแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ และรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ชี้แจง ว่า นักโทษชายดังกล่าวยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ 24 ชั่วโมง ตลอด 100 กว่าวันที่ผ่านมา แต่ยังไม่ทราบว่า จะเป็นจริงตามนั้นหรือไม่ ต้องรอกระบวนการตรวจสอบ ฉะนั้นขอย้ำว่า เราไม่มีอคติใดๆ เพียงแต่อยากเห็นกระบวนการยุติธรรมที่ไม่เอื้อกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ตามหลักปฏิบัติ ซึ่งไม่ควรใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบและกระทำการใดที่ขัดต่อหลักของกฎหมาย” นายสมชาย กล่าว
นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สว. ในฐานะกมธ.สาธารณสุขฯ กล่าวว่า การทำงานที่ผ่านมา เราได้เชิญโรงพยาบาลตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมราชทัณฑ์ มาชี้แจ้งแล้ว พบว่า 4 โรคที่อ้างว่า นายทักษิณป่วย ไม่ใช่ข้อมูลในประเทศ และอาการหนักหรือไม่ก็ยังไม่มีความชัดเจน ฉะนั้นเราจะขอคำสั่งศาล เพื่อให้ดำเนินการต่อไป
ด้าน นายประพันธ์ คูณมี สว. อีกคน กล่าวว่า แม้ตนจะเคยชุมนุมต่อสู้เรียกร้องกรณีนายทักษิณ แต่ไม่ได้โกรธแค้นเป็นการส่วนตัว ดีใจด้วยซ้ำที่ท่านกลับเข้ามาในประเทศไทยและพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานอภัยโทษลดให้เหลือจำคุกเพียง 1 ปี นั้น ท่านควรจะซาบซึ้งและปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ผลปรากฏว่า แม้วันเดียวท่านก็ยังไม่ยอมเข้าไปอยู่ในคุก จึงเสมือนเป็นการทำร้ายหลักการสำคัญของบ้านเมือง และจิตใจประชาชน โดยเฉพาะผู้ต้องขังคนอื่น แทนที่จะเป็นแบบอย่างที่ดีกับบ้านเมือง กลับไม่สำนึกต่อพระมหากรุณาธิคุณดังกล่าว ไม่รักษาหลักการบ้านเมือง แต่รักษาประโยชน์ของตนเอง










