นายกฯ เซ็นคำสั่งแบ่งงาน ‘รองนายกฯ’ ใหม่ ดึง ‘ยุติธรรม’ เว้น ‘ดีเอสไอ’ ให้ ‘พีระพันธุ์’ คุมแทน ‘สมศักดิ์’ สะพัดปมเหตุเผือกร้อน ‘ทักษิณ’ ขังนอกเรือนจำพ่นพิษ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ได้ลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 381/2566 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจ ให้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี เมื่อ 25 ธ.ค. 66 สาระสำคัญ คือ
1. การมอบหมายและมอบอำนาจให้ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี
2. การมอบหมายและมอบอำนาจให้ รองนายกรัฐมนตรี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี กระทรวงสาธารณสุข
3. การมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี กระทรวงยุติธรรม (ยกเว้น กรมสอบสวนคดีพิเศษ)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแบ่งงานครั้งล่าสุดนี้ อาจเกี่ยวข้องกับกรณีการรักษาตัวนอกเรือนจำ นายทักษิณ ชินวัตร ของอดีตนายกรัฐมนตรีที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งอยู่เกิน 120 วันแล้ว โดยในช่วงที่ผ่านมา นายเศรษฐา รวมถึง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ต่างปฏิเสธตอบคำถามสื่อมวลชนในหลายโอกาสถึงเรื่องนายทักษิณ พร้อมกับระบุสอดคล้องกันว่า เป็นหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ
ขณะที่ นายสมศักดิ์ มักชี้แจงประเด็นดังกล่าวที่สังคมสงสัยมาตลอด ซึ่งเกี่ยวข้องกับระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ.2566 ที่กำหนดเงื่อนไขการคุมขังนอกเรือนจำ และยังเคยออกมาเตือน กรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร อาจถูกฟ้องดำเนินคดี หากเข้าตรวจค้น ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ โดยพลการ
นอกจากนี้ เมื่อ 26 ธ.ค. 66 นายสมศักดิ์ ได้ให้สัมภาษณ์ตำหนิกรมราชทัณฑ์ ทำงานเช้าชามเย็นชามในกรณีนายทักษิณ และยังระบุว่า เรื่องที่เกี่ยวข้องกับนายทักษิณ ไม่กระทบเสถียรภาพรัฐบาล เพราะเงื่อนไขของกฎหมายและระเบียบราชทัณฑ์มีความชัดเจน ถ้าปฏิบัติตามแนวทางและกรอบของกฎหมาย หากข้าราชการทำตามทุกอย่างก็เดินไปตามปกติ แต่ถ้าทำๆ หยุดๆ ไม่จริงจัง ทำไปโดยที่ไม่เข้าใจ จะเป็นปัญหา
‘เศรษฐา’ แจง วางคนให้ตรงจุด ไม่เกี่ยว ‘สมศักดิ์’ วิจารณ์ ‘กรมราชทัณฑ์’
เวลาต่อมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับงานรองนายกฯ ใหม่ว่า เป็นไปตามความเหมาะสม โดยมอบให้นายสมศักดิ์ ไปดูงานของกระทรวงสาธารณสุขแทน เนื่องจากเป็น สส. ในพื้นที่ น่าจะมีความเข้าใจความต้องการของประชาชนมากกว่า
ขณะที่ นายพีระพันธุ์ ได้รับมอบหมายให้ดูแลกระทรวงยุติธรรม เนื่องจากเป็นอดีตผู้พิพากษา และมีความรู้ความสามารถ ทุกอย่างเป็นไปตามความเหมาะสม พร้อมขอสื่อมวลชนอย่าคิดมาก แค่วางคนให้ตรงจุดเท่านั้น ซึ่งหากสังเกตจะเห็นว่า นายพีระพันธุ์ ไม่ใช่คนของพรรคเพื่อไทย ไม่ได้ยึดติดว่า ใครเป็นพรรคไหนต้องอยู่ตรงไหนเสมอไป และยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับที่นายสมศักดิ์ วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของกรมราชทัณฑ์
ส่วนวันหยุดหลายวันมีการแจกการบ้านรัฐมนตรีอย่างไรนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า แต่ละคนมีงานที่จะต้องรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว การคมนาคม ความมั่นคง แต่ละคนก็มีหน้าที่แตกต่างกันไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากให้พูด 1 ประโยค จากใจถึงหูประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ นายเศรษฐา ระบุว่า ตนไม่เก่งเรื่องแบบนี้ หากพูดอะไรออกไป ก็จะเป็นวาทกรรมทางการเมือง อยากให้มีกินมีใช้ อยากให้สุขภาพแข็งแรง ก็เป็นสิ่งที่ตนอยากให้เกิดขึ้นอยู่แล้ว แต่ต้องมองในระยะยาวว่า อยากให้ทุกคนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ ปัญหายาเสพติด ต้องลดลงไป หรือ สิทธิและเสรีภาพในการเลือกที่จะเป็นใคร พ.ร.บ.อากาศสะอาด สิทธิ์ในการรับอากาศสะอาด และมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงผ่านสิทธิ์ 30 บาทรักษาทุกโรค รวมไปถึงเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งตนอยากให้ดูระยะยาว ไม่ใช่ให้ดูแค่วันที่ 1 มกราคม เพราะเป็นเพียงแค่วันหนึ่งเท่านั้น อยากจะยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทุกคนให้ดีขึ้น และจะทำอย่างไรที่จะไม่ทิ้งคนไว้ข้างหลังเป็นสิ่งสำคัญ
‘สมศักดิ์’ ปัด ‘ระเบียบราชทัณฑ์ 66’ คุมขังนอกเรือนจำ ไม่ได้ปูทางเอื้อ ‘ทักษิณ’










