‘ธนาธร’ ชี้สูตรหาร 100 ทำเสียเปรียบ ‘ก้าวไกล’ พร้อมเข้าสู่การเลือกตั้ง

‘ธนาธร’ ชี้สูตรหาร 100 ทำเสียเปรียบ ‘ก้าวไกล’ พร้อมเข้าสู่การเลือกตั้ง

‘ธนาธร’ เมินกลยุทธ์ ‘2 ป.’ แยกกันเดิน ขอทำงานเต็มที่ ‘ก้าวไกล’ พร้อมรับทุกกติการับศึกเลือกตั้ง แม้จะนำมาซึ่งการเสียเปรียบ

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 7 ต่อ 2 ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. เกี่ยวกับสูตรคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์แบบหาร 100 ไม่ขัดรัฐธรรมนูญว่า ก็ต้องถามพรรคก้าวไกล ตนตอบแทนพรรคก้าวไกลไม่ได้ เชื่อว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และพรรคก้าวไกลทั้งพรรค ทุกคนพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้ง ไม่ว่ากฎกติกาจะเป็นแบบไหน

เมื่อถามว่า สูตรหาร 100 พรรคก้าวไกลจะได้เปรียบหรือเสียเปรียบ

นายธนาธร กล่าวว่า กติกาการเลือกตั้งถึงแม้จะนำมาซึ่งการเสียเปรียบ แต่เราพร้อมเชื่อว่า ผลงานตอนพรรคอนาคตใหม่ในสภาฯ ผลงานของคณะก้าวหน้าในการเมืองท้องถิ่น หวังว่าประชาชนจะเห็นสิ่งต่างๆ เหล่านี้ เข้าใจในสิ่งที่พวกเราพยายามทำ เข้าใจความหวังดีของพวกเรา และกลับมาเป็นคะแนนสนับสนุนพวกเรา

นอกจากนี้ นายธนาธร กล่าวถึงกรณีอัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่ฟ้องในคดีถือหุ้นสื่อว่า เรายืนยันความบริสุทธิ์ใจ พร้อมต่อสู้คดี ถือว่าอัยการฯ ได้มีคำตัดสินมาแล้ว ขอบคุณที่ให้ความเป็นธรรม ส่วนคดีที่อัยการสูงสุดชี้ขาดมีคำสั่งฟ้องตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ฐานยุยงปลุกปั่น ร่วมกับนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และน.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้านั้น ยืนยันว่า คดีนี้ผู้มีอำนาจต้องการทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะหยุดยั้งเรา ก็พร้อมสู้ทุกคดี ตนเข้ามาทำงานการเมืองวันนี้ 4 ปีแล้ว ไม่เคยมีครั้งไหนจะคิดทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวเลย

“คดีความต่างๆ ที่เล่นงานผมและพรรคพวก ไม่ว่าจะเป็นนายปิยบุตร แสงกนกกุล หรือแกนนำพรรคอนาคตใหม่อื่นๆ เป็นแรงผลักดันทางการเมือง เพื่อต้องการหยุดยั้งเรา ขอย้ำว่าคดีต่างๆเหล่านี้ไม่สามารถหยุดยั้งความตั้งใจจริงของเราได้ เราจะทำงานเต็มที่ต่อไปเรื่อยๆ” นายธนาธร กล่าว

เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ แยกกันเดิน

นายธนาธร กล่าวว่า ไม่รู้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่ระบอบประยุทธ์ ไม่ว่าจะพล.อ.ประยุทธ์จะยังอยู่หรือไม่ ระบอบประยุทธ์ก็ยังอยู่กับเรา ระบอบประยุทธ์ ใหญ่กว่าตัวพล.อ.ประยุทธ์เอง มันอยู่ในประกาศคำสั่ง คสช. องค์กรอิสระต่างๆ และอยู่ในรูปแบบร่างรัฐธรรมนูญ รวมถึงวิธีคิดต่างๆ

คิดว่ายังไงก็ต้องเอาประเทศไทยกลับมาเดินในแนวทางประชาธิปไตยให้ได้ ไม่ว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นหัวหน้าพรรคไหน จะทำการเมืองต่อหรือไม่ก็ตาม ยังไงก็ต้องแก้รัฐธรรมนูญ แก้เรื่องที่มาขององค์กรอิสระ ผลักดันเรื่องการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นต่อ ที่คสช. ต่อมาถึงรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ 2 ก็มีแนวโน้มปิดกั้นการกระจายอำนาจฯ

ประธานคณะก้าวหน้า ไม่ขอแสดงความคิดเห็นเมื่อถูกถามว่า ระหว่าง 2ป.อยู่ด้วยกันกับแยกกันเดิน อย่างไหนสู้ยากกว่ากัน พร้อมย้ำว่า เราพยายามตั้งใจทำงานให้เต็มที่มากที่สุด ให้ประชาชนเห็นความตั้งใจของเรา ปัจจัยอื่นๆ ที่ควบคุมและจัดการไม่ได้ไม่ต้องไปกังวล เรากังวลกับสิ่งที่อยู่ในขอบเขตที่เราสามารถทำให้ดีขึ้นได้ ส่วนที่ไม่ได้อยู่ในขอบเขต อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เราพร้อมรับทุกสถานการณ์

เมื่อถามว่า ถ้าแก้รัฐธรรมนูญไม่ทันก่อนการเลือกตั้ง

นายธนาธร กล่าวว่า แก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับคงจะไม่ได้แล้ว แต่สิ่งที่พอมีหวังตอนนี้คือแก้รัฐธรรมนูญฉบับที่อยู่ในรัฐสภาวันนี้ คือเรื่องหมวด 14 ว่าด้วยการปกครองส่วนท้องถิ่น และการให้ประชาชนทำประชามติถามประชาชนว่าเห็นด้วยหรือไม่ที่จะให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ คิดว่า 2 เรื่องนี้พอมีความเป็นไปได้

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง