มท.1 แจงกรณีไฟไหม้ ‘เมาท์เทนบี’ เข้มลงโทษ นอภ.ผิดทั้งวินัย-อาญา ออกหนังสือเวียนทั่วประเทศทำตามกม.

มท.1 แจงกรณีไฟไหม้ ‘เมาท์เทนบี’ เข้มลงโทษ นอภ.ผิดทั้งวินัย-อาญา ออกหนังสือเวียนทั่วประเทศทำตามกม.

มท.1แจง ส.ว. กรณีไฟไหม้ ‘เมาท์เทนบี” ’ชี้ นอภ.สัตหีบผิ ดทั้งวินัย-อาญา ปล่อยให้เปิดผิดประเภทจากที่ขออนุญาต พร้อมส่งสัญญาณทั่วประเทศเข้มงวดสถานบันเทิง

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตอบกระทู้สด ในการประชุมวุฒิสภา (ส.ว.) กรณีเหตุการณ์เพลิงไหม้สถานบันเทิงเมาท์เทน บี อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดย นายวันชัย สอนศิริ ส.ว.ถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดผลกระทบกับความรู้สึกของคนจำนวนมาก เมื่อเกิดเรื่องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงตื่นตัว เช่น กทม. สั่งให้ตรวจสอบผับบาร์​ เหมือนกับวัวหายแล้วล้อมคอก จึงอยากถามว่ากรณีเมาท์เทนบี ได้ดำเนินการอย่างไรบ้าง และในอนาคตจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก 

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ทุกส่วนทำตามอำนาจหน้าที่โดยยึดประชาชนเป็นหลัก และยึดหลักธรรมาภิบาล โปร่งใส รับผิดชอบ ไม่มีผลประโยชน์ ไม่มีพวกพ้อง กรณีสถานประกอบการเมาท์เทนบี เป็นอำนาจของท้องถิ่นในการให้อนุญาต ซึ่งตนไม่ได้กำกับท้องถิ่นโดยตรง คนที่กำกับท้องถิ่นคือผู้ว่าราชการจังหวัด ยกตัวอย่าง กทม. มีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ทำอะไรก็ไม่เคยบอกตน ไม่ว่าจะขึ้นหรือลดราคาค่าโดยสารก็ตาม แต่ถ้าท่านไม่ทำความผิดอะไรตนไปยุ่งไม่ได้ เช่นเดียวกับท้องถิ่นที่เขาทำเป็นไปตามอำนาจหน้าที่หรือไม่ ถ้าไม่สุจริตหรือมีร้องเรียนก็ต้องมีการสอบข้อเท็จจริง

   พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า กรณีเมาท์เทนบีเป็นการขออนุญาตท้องถิ่น ขอจดทะเบียนเป็นร้านอาหาร และเปิดกิจการเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.65 ที่ผ่านมา แต่เมื่อดำเนินการจริงกลับเปิดเป็นสถานบริการ ดังนั้นขั้นต้นท้องถิ่นต้องรับผิดชอบแน่นอน ส่วนผู้ประกอบการจงใจเจตนาที่จะดำเนินการ ทั้งที่พื้นที่ก่อสร้างอยู่ในเขตโซนนิ่งไม่สามารถทำได้ จึงขออนุญาตเป็นร้านอาหารถือเป็นการขอจดทะเบียนผิดประเภท ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง หากพิจารณาตามกฎหมายที่ฝ่ายปกครองถืออยู่ ถือว่ามีความผิดด้วย สรุปว่าขณะนี้พิจารณาตามสิ่งที่เกิดขึ้นโดยที่ยังไม่ได้ดูผลการสอบ ทั้งสองส่วนคือท้องถิ่น และฝ่ายปกครอง จะต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย 

“ขั้นต้นมีคำสั่งย้ายนายอำเภอ พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว ซึ่งเจตนากระทำผิดคอร์รัปชัน มีผลประโยชน์ มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือปล่อยปละละเลยหรือไม่ จะต้องดำเนินการพิสูจน์กัน ยืนยันว่า ผมไม่ปล่อยปละละเลย และได้ออกหนังสือเวียนทั่วประเทศให้กวดขันไม่ให้มีการใช้อาคารผิดประเภท หรือประกอบกิจการที่ไม่ได้รับอนุญาต ส่วนอนาคตที่ผมคิดว่าจะต้องดำเนินการ คงไม่พ้นเรื่องการลงโทษแบบเข้มงวด ต้องลงโทษให้เป็นเยี่ยงอย่าง ไม่ให้เกิดการอะลุ่มอล่วย ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นกับเมาท์เทนบี ถือว่าเข้าข่ายผิดทั้งทางวินัย และอาญา” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง