‘อนุทิน’ ปัดข่าวจ่ายค่าหัว ส.ส. คนละ 5-30 ล้านบาท ยันพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีขบวนการล้มนายกฯ ชี้อย่าให้ความสำคัญ ด้าน ‘สมศักดิ์’ มองดีลล้มรัฐบาลเป็นไปไม่ได้ เพราะตัวเลขสูงเกินไปสวนทางอายุรัฐบาลเหลือน้อย ชี้พรรคเล็กเคลื่อนไหวสร้างราคาก่อนหมดอายุ
วันที่ 3 พ.ค. 2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าหากมีอุบัติเหตุทางการเมืองมีชื่อนายอนุทิน อยู่ในบัญชีรายชื่อของนายกรัฐมนตรีสำรอง ว่า เป็นผลพวงสืบเนื่องมาจากการเลือกตั้งปี 2562 ที่ทุกพรรคการเมืองต้องใส่ชื่อบุคคลที่พรรคเห็นว่าสมควรได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามว่า กระแสข่าวว่าจะมีการจ่ายค่าหัวให้ ส.ส. หัวละ 5-30 ล้านบาท เพื่อโหวตล้มรัฐบาล ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้มีแต่จากข่าว ซึ่งถ้าฟังแล้วไม่มีเหตุผล เราก็ไม่ควรไปให้ความสำคัญ และเมื่อดูจากการกระทำก็ไม่น่าเป็นไปได้ ตนเชื่อว่าแต่ละพรรคก็ต้องมีมาตรการในการบริหารจัดการอยู่แล้ว แต่ยืนยันพรรคภูมิใจไทยไม่มี และพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีขบวนการล้มนายกรัฐมนตรี เพราะต้องทำงานร่วมกันและรับผิดชอบร่วมกันอยู่แล้ว
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าสถานการณ์ในช่วงเดือนสิงหาคมของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลนั้นจะดูแย่มาก พรรคภูมิใจไทยจะมีแนวทางช่วยเหลืออย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า เราสนับสนุนรัฐบาลอยู่แล้วในสิ่งที่ทำงานร่วมกัน และในการอภิปรายไม่ไว้วางใจทุกคนก็พร้อมที่จะชี้แจง ซึ่งถ้าไม่ใช่เรื่องที่ชี้แจงไม่ได้ หรือมีการทุจริตอย่างเห็นได้ชัด เราก็ต้องสนับสนุนกันไปในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล
ส่วนขบวนการล้มนายกรัฐมนตรีจะเริ่มตั้งแต่การพิจารณา ร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 นายอนุทิน กล่าวว่า จะต้องไปสอบถามคนที่ซื้อและขาย แต่ยืนยันว่าในพรรคร่วมรัฐบาลไม่มี และเสียงหัวหน้าพรรคแต่ละพรรค ก็ยังไม่ได้มีการหารือกันในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงเรื่องจะทำอย่างไร หากควบคุม ส.ส.ไม่ได้ และ ถ้ามีเรื่องแบบนี้นายกรัฐมนตรีก็ต้องตัดสินใจในทางการเมือง แต่ตอนนี้ทุกคนให้ความเชื่อมั่นกันและกัน ว่าจะร่วมกันสนับสนุนการทำงานของรัฐบาล ให้เป็นไปด้วยความราบรื่นและเรียบร้อย
สำหรับบทบาทของพรรคเล็ก ที่ออกมาเคลื่อนไหวในขณะนั้น เพราะถือว่าเป็นหนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาลเช่นกัน นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ได้ติดตามข่าว เพราะทำแต่งาน
ขณะที่นายสมศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม คณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค พปชร. กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคเล็กไปรับประทานอาหารกับพรรคเพื่อไทยทำให้ถูกตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมีการหารือเรื่องล้มรัฐบาลในสภาว่า เรื่องของพรรคเล็กหรือฝ่ายค้าน ถ้าทบทวนดูจะเห็นว่าปีสุดท้ายของรัฐบาลจะเป็นแบบนี้ เพราะฝ่ายค้านก็จะต้องติดตามงานของรัฐบาล ขณะที่เราก็ต้องเร่งงานของเราให้ออกมาเป็นรูปธรรม ส่วนพรรคเล็กถ้าเขาไม่ออกมาพูดหรือมีบทบาทในช่วงปีสุดท้ายเพื่อทำให้มีราคาเขาก็ไม่มีราคา
เมื่อถามว่า การไปหารือกับฝ่ายค้านหวังจะล้มรัฐบาลใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องการเมืองพรรคเล็ก พรรคใหญ่ต้องคุยกัน ต้องหารือกัน พรรคเดียวกันก็ต้องสามัคคี มีความคิดที่ตกผลึกออกมาเป็นแนวทางเดียวกัน ไม่ใช่ไปคนละทิศคนละทาง
เมื่อถามถึงกระแสข่าวถึงค่าหัวของส.ส.จำนวน 5-30 ล้านบาท เพื่อล้มนายกฯ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า คงไม่ใช่อย่างนั้น จะใช้อะไรมากมายขนาดนั้น การจะล้มรัฐบาลหรือล้มใคร 30 ล้านบาทมากเกินไปกับเวลาของรัฐบาลที่เหลือไม่กี่เดือนเป็นไปไม่ได้ โมเมไปเอง ย้ำว่าเป็นไปไม่ได้เพราะตัวเลขไม่สอดคล้องกับช่วงเวลาของรัฐบาลจากวันนี้ไปถึงวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือ วันที่อาจจะมีปัญหาใดเกิดขึ้นในวันข้างหน้าก็เหลือไม่กี่เดือนจะไปจ่ายอะไรตั้ง 30 ล้านจากประสบการณ์ดูและไม่ใช่และไม่น่าเชื่อและไม่น่าจะมี
เมื่อถามย้ำว่า คิดว่าไม่น่าจะล้มรัฐบาลใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ได้พูดเรื่องล้มหรือไม่ล้ม แต่หมายถึงเรื่องตัวเงินอย่าเอามาพูดให้เกิดความรู้สึกว่า มีอะไรก็ต้องใช้เงินไปหมดก็ไม่มีคนทำงาน
