ครม.อนุมัติ 3,995 ล้านบาท จัดหายาโควิด-19 พร้อมย้ำขอสวมหน้ากากทุกครั้งเมื่อออกจากบ้าน
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีข้อสั่งการว่าให้ทุกหน่วยงานติดตามรายงานสถานการณ์โควิด และเตรียมพร้อมรับมือหลังหยุดยาวในช่วง 5 วันที่ผ่านมา โดยย้ำเรื่องการสวมหน้ากากทุกครั้งที่ออกจากบ้านและการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น พร้อมขอให้กรมประชาสัมพันธ์และกระทรวงสาธารณสุขเตรียมความพร้อมในเรื่องการรักษา เรื่องยา และส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักความสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพ จนสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ พร้อมกำชับเรื่องจัดงานและกิจกรรมในทุกพื้นที่ให้มีมาตรการป้องกัน ซึ่งนายกรัฐมนตรีย้ำว่าเราไม่สามารถกลับไปที่เก่า
นายธนกร กล่าวว่า ที่ ครม. เห็นชอบโครงการจัดหายารักษาผู้ป่วยโควิด-19 กรอบวงเงิน 3,995.27 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินงาน 3 เดือน (ก.ค.-ก.ย. 65) แบ่งเป็น สำหรับซื้อยาและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ (ของใหม่) ได้แก่ ยาฟาวิพิราเวียร์ และยาโมนูพิราเวียร์ เฉลี่ย 27 ล้านเม็ด/เดือน (จำนวน 1,296.00 ล้านบาท) และยาเรมเดซิเวียร์ จำนวน 57,000 หลอด/เดือน (จำนวน 21.96 ล้านบาท) วงเงินรวม 1,317.96 ล้านบาท รวมทั้งเป็นการแบ่งค้างชำระ สำหรับยาฟาวิพิราเวียร์ และยาโมนูพิราเวียร์ 165 ล้านเม็ด (จำนวน 2,653.81 ล้านบาท) และค่าชุดตรวจ ATK จำนวน 1 ล้านชุด (จำนวน 23.50 ล้านบาท)
ทั้งนี้ โครงการจัดหายารักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 และวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับเตรียมความพร้อมในการรับมือและป้องกันโรคโควิด-19 และดูแลรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 สนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ในการรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้อย่างปลอดภัยในหน่วยบริการสุขภาพทุกระดับ
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุม ครม. ว่า ที่ประชุมอนุมัติวงเงินจากเงินกู้ 5 แสนล้านบาท เพื่อมาดำเนินการด้านสาธารณสุข ซึ่งวงเงินมีไม่มากนักและต้องนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดไปจนถึงเดือน ธ.ค. ส่วนงบกลางมีการจัดเตรียมงบประมาณไว้ เพื่อใช้สำหรับรับมือสถานการณ์อุทกภัยหรือเรื่องอื่นๆที่มีความสำคัญในการบริหารราชการในช่วงท้ายปีงบประมาณ จึงจำเป็นต้องใช้จ่ายระมัดระวังที่สุด










