‘ชูวิทย์’ ไฟไหม้ผับสัตหีบ ซ้ำรอย ‘ซานติก้า’ ขอ ‘ชัชชาติ’ ตรวจสอบผับใน กทม.ด้วย
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ระบุว่า ประวัติศาสตร์ซำ้รอย “ซานติก้าผับ เมื่อคืน (4 ส.ค.) เกิดเหตุไฟไหม้ผับ Mountain B ที่สัตหีบ ชลบุรี มีผู้เสียชีวิตแล้ว 13 ราย ผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตทุกท่านครับ ว่าแล้วสักวันประวัติศาสตร์ต้องซ้ำรอย “ซานติก้าผับ” เมื่อ 10 กว่าปีก่อน ไฟไหม้ในคืนปีใหม่ตายเจ็บร่วมร้อย
วันนี้กลับมาเกิดเรื่องอีกด้วยเหตุเดิมๆ คือ นึกอยากเปิดผับ ก็เปิดไม่อยากจะซ้ำเติม แต่ขั้นตอนป้องกันต้องมี 1. ทางเข้าออก ทางหนีไฟ ต้องมีหลายทาง 2. ได้รับอนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลง จากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น 3. ต้องจำกัดจำนวนคนเข้าตามขนาดพื้นที่ที่รับไหว หากคนเกินก็ไม่ให้เข้า จนกว่าจะมีคนออก ขั้นตอนง่ายๆ ไม่ทำ ปล่อยปละละเลย ข้างในนอกจากมืดแล้วยังเสียงดัง มีทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย
“ชักสงสัยเหมือนกันว่าใน กทม. บรรดาผับดังของทุนจีนทั้ง เอกมัย ทองหล่อ อาร์ซีเอ มีทางออกกี่ทาง มีใบอนุญาตก่อสร้าง ใบอนุญาตผับ–บาร์ ถูกต้องไหม? อยากให้ กทม. ยุคของท่านชัชชาติวิ่งไปดูหน่อยครับ ผับซานติก้าเมื่อ 10 กว่าปีก่อนยังหลอกหลอนไม่หาย คนเข้าเป็นพัน แต่มีทางออกทางเดียว เพราะไม่ได้ขอเป็นผับแต่ต้น ไหนจะใบอนุญาตตำรวจ คงให้เป็นแค่ร้านอาหาร แต่เปิดกันมั่วเนียนๆ เป็นผับทุกที่ คงไม่ต้องร้อง Traffy Fondue เพราะตอนนี้ กทม. เฉพาะตอบข้อร้องเรียน ก็ไม่เป็นอันทำอะไรแล้ว” นายชูวิทย์ ระบุ
ด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า จากกรณีไฟไหม้สถานบันเทิงที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเกิด เมื่อ 2 เดือนที่แล้วที่มีเหตุการณ์ไฟไหม้ที่สีลมซอย 2 ได้กำชับให้ทุกเขตตรวจทางหนีไฟ ความเสี่ยงอัคคีภัย ทุกสถานบริการ พร้อมมอบหมายให้ พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าฯ กทม. ไปกำชับให้เข้มข้นมากขึ้น ต้องลงตรวจให้มากขึ้น เพราะมีการเปิดเมือง มีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น กทม.จะเอากรณีนี้มาเป็นอุทาหรณ์มาเร่งดำเนินการณ์ โดยเดือนนี้จะมีการติดตามว่ามีปัญหาตรงจุดไหนบ้าง










