ศาลรธน. เสียงข้างมาก รับคำร้อง ’40 สว.’ เฉพาะ ‘เศรษฐา’ มติ 5 ต่อ 4 ไม่สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่

ศาลรธน. เสียงข้างมาก รับคำร้อง ’40 สว.’ เฉพาะ ‘เศรษฐา’ มติ 5 ต่อ 4 ไม่สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่

การเมือง

ด่วน! ศาลรัฐธรรมนูญ เสียงข้างมาก รับคำร้อง ’40 สว.’ เฉพาะส่วนของ ‘เศรษฐา’ และมีมติ 5 ต่อ 4 ไม่สั่ง ‘เศรษฐา’ หยุดปฏิบัติหน้าที่ ‘นายกรัฐมนตรี’

วันนี้ (23 พ.ค. 67) ศาลรัฐธรรมนูญ ประชุมปรึกษาคดีที่ประธานวุฒิสภาส่งคำร้อง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่

สมาชิกวุฒิสภา (สว.) 40 คน ยื่นคำร้องต่อประธานวุฒิสภา ว่า นายเศรษฐา นายกรัฐมนตรี (ผู้ถูกร้องที่ 1) ได้นำความกราบบังคมทูลฯ เพื่อโปรดเกล้าแต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน (ผู้ถูกร้องที่ 2) เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งๆ ที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่า ผู้ถูกร้องที่ 2 ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ

เนื่องจากผู้ถูกร้องที่ 2 เคยถูกศาลฎีกา มีคำสั่งจำคุกเป็นเวลา 6 เดือน ในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล เป็นบุคคลที่กระทำการอันไม่ซื่อสัตย์สุจริต และมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) และ (5) เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องทั้งสองสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ(5) หรือไม่ ผู้ร้องจึงส่งคำร้องเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82

ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องแล้วเห็นว่า กรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 วรรคหนึ่ง และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 7 (9)

ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 (ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์, นายอุดม รัฐอมฤต และนายสุเมธ รอยกุลเจริญ) มีคำสั่งรับคำร้อง ผู้ถูกร้องที่ 1 ไว้พิจารณา และให้ผู้ถูกร้องที่ 1 ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้องตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 54

สำหรับ กรณีของผู้ถูกร้องที่ 2 ได้มีคำร้องของผู้ถูกร้องที่ 2 ลงวันที่ 23 พ.ค. 67 แจ้งว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 67 ผู้ถูกร้องที่ 2 ได้ลาออกจากตำแหน่ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แล้ว ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องที่ 2 สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (2) กรณีไม่มีเหตุที่จะต้องวินิจฉัยคดีต่อไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 51 ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมาก 8 ต่อ 1 (ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม) มีคำสั่งไม่รับคำร้องเฉพาะส่วนของผู้ถูกร้องที่ 2 ไว้พิจารณาวินิจฉัย

ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณากรณีขอให้ผู้ถูกร้องที่ 1 หยุดปฏิบัติหน้าที่ นายกรัฐมนตรีจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง แล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้อง ในชั้นนี้ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 (ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย นายปัญญา อุดชาชน, นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม, นายวิรุฬห์ แสงเทียน และนายจิรนิติ หะวานนท์) ไม่สั่งให้ผู้ถูกร้องที่ 1 หยุดปฏิบัติหน้าที่

อ้างอิง : 

ประธานศาลรัฐธรรมนูญ และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 (ปัจจุบัน)

ข่าวสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ วันที่ 23 พ.ค. 2567

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘พิชิต ชื่นบาน’ กลับลำ ยื่นหนังสือลาออกจาก ‘รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี’

40 สว. ยื่น ศาลรัฐธรรมนูญ ถอดถอน ‘เศรษฐา’ พ้นนายกฯ ปมแต่งตั้ง ‘พิชิต’ เป็นรัฐมนตรี

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง