เพื่อไทยเปิดเอกสารลับเหมืองทองอัครา แฉมีไอ้โม่งรับคำสั่งคุมเบื้องหลัง เตรียมร้องป.ป.ช.สอบต่อมั่นใจเอาผิดได้

เพื่อไทยเปิดเอกสารลับเหมืองทองอัครา แฉมีไอ้โม่งรับคำสั่งคุมเบื้องหลัง เตรียมร้องป.ป.ช.สอบต่อมั่นใจเอาผิดได้

การเมือง

‘จิราพร สินธุไพร’ เปิดเอกสารลับอัยการสูงสุดแนะให้ยกเลิกคำสั่ง คสช. แก้ปัญหาเหมืองทองอัครา แต่นายกรัฐมนตรีไม่รับฟัง ระบุก่อให้เกิดความเสียหายต่อเนื่อง แฉมีไอ้โม่งค่อยรับคำสั่งคุมเบื้องหลัง 

น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย อภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ ในประเด็นเมืองทองอัครา บริษัท คิงส์เกต โดยะบุว่า นายกรัฐมนตรี ใช้ ม.44 ยุติการทำเหมืองแร่จนเกิดความเสียหาย มีพฤติกรรมนำเงินแผ่นดินไปแลกเปลี่ยน เพื่อไม่ต้องรับผิดทางกฎหมาย ที่ต้องเอาเรื่องนี้มาอภิปรายอีกครั้งเพราะเรื่องยังไม่สิ้นสุด มีแนวโน้มบานปลาย มีเอกสารราชการระหว่างประเทศเอกสารลับจนถึงลับที่สุด เป็นข้อมูลใหม่ที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อน จากเอกสารที่สืบค้นมาเพิ่มเติม มีหน่วยงานที่เคยให้ความเห็นคัดค้านว่าไม่ควรใช้ ม.44 และเห็นว่าหากเรื่องเข้าสู่กระบวนยุติธรรมไทยมีโอกาสแพ้คดีเหมืองทองอัครา ซึ่งหลังจากนั้น บ.คิงเกต ได้ขอไกล่เกลี่ยหลายครั้ง แต่ท้ายที่สุดยื่นฟ้อง เพราะนายกรัฐมนตรี ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ 

“มีบุคคลลึกลับสองคน ที่ไม่ได้อยู่ใน คณะกรรมการดำเนินการระงับข้อพิพาทระหว่างราชอาณาจักรไทยกับคิงส์เกต คอยรับคำสั่งจาก พล.อ.ประยุทธ์ ไปนั่งหัวโต๊ะ เพื่อชี้นำการทำงานของคณะกรรมการขาดอิสระในการดำเนินการ ยืนยันมีพยานซัดทอดไปยังไอ้โม่งสองคนนี้ เป็นพยานว่าพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ของประเทศ” น.ส.จิราพร กล่าว 

น.ส.จิราพร อภิปรายว่า มีเอกสารลับที่ร่างขึ้นโดยสำนักงานอัยการสูงสุด เสนอแนวทางแก้ปัญหาฟ้องร้องตาม ม.44 มีหลายประเด็นที่ให้ความเห็นต่อการใช้ ม.44 เอกสารหน้าที่สาม ขอให้ยกเลิกการใช้ ม.44 และคืนสิทธิ์ให้กับเหมืองทองอัครา พร้อมการชดเชย และมีความพยายามสร้างหลักฐานเท็จ ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเกิดความเสียหาย ฟ้องร้องบานปลาย สำนักงานอัยการสูงสุด ได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหา ให้คืนสิทธิผู้ประกอบการ และเสนอให้ยกเลิกคำสั่ง คสช.ที่ 72/2559 ซึ่งจะมีผลคืนสิทธิให้เหมืองอัครา ซึ่งท้ายหนังสือแนะนำให้ใช้อำนาจยกเลิกคำสั่ง คสช. จะทำให้หยุดความเสียหายโดยทันที อยากถามนายกรัฐมนตรีว่าเห็นหนังสือฉบับนี้หรือไม่ เพราะเป็นการหยุดความเสียหายได้ทันที หนังสือฉบับนี้ออกมา 4 ปีกว่า ยังไม่เห็นนายกรัฐมนตรียกเลิกคำสั่ง ทำให้จากคำสั่งชั่วคราวเป็นคำสั่งถาวร 

น.ส.จิราพร กล่าวว่า คดีเหมืองทองอัครา นายกรัฐมนตรียังเพิกเฉยกับการแก้ปัญหา ไม่มีการยกเลิกคำสั่ง จนถึงปัจจุบัน ทั้งที่มีทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ข้อแนะนำและฝ่ายค้านอภิปรายอย่างต่อเนื่องถึง 5 ครั้ง เท่ากับจงใจกระทำความผิดซ้ำซาก แม้จะยังไม่มีคำสั่งจากคณะอนุญาโตตุลาการต่างประเทศ แต่มีความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว ในข้อพิพาทระหว่างไทยกับบริษัทคิงส์เกต โดยเป็นค่าใ้ช้จ่ายระหว่างการระงับข้อพิพาทและค่าภาคหลวงที่เสียหายไป หากในอนาคตมีการตัดสินคดีว่าไทยต้องชดใ้ช้ค่าเสียหาย อาจจะต้องจ่ายไม่ตำ่กว่าแสนล้านบาทหรือไม่ 

น.ส.จิราพร กล่าวด้วยว่า เมื่อต้นปีที่ผ่านมา มีการเปิดทางให้ บ.อัครา เพื่อให้เหมืองพร้อมเปิดดำเนินการอีกครั้ง มีค่าใช้จ่ายประมาณ 500 ล้านบาท ที่น่าสนใจคือการกู้ยืมเงินตรงกับข้อเรียกร้องของบริษัทคิงเกต จึงตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการเปิดทางให้เข้ากู้ยืมเงินหรือไม่ ซึ่งการให้ผลประโยชน์ แสดงให้เห็นว่านายกรัฐมนตรีต้องการที่จะพ้นผิดจากเรื่องนี้หรือไม่ นอกจากนี้ยังพบร่องรอยของการล้มคดีภายในประเทศอีกด้วย การดำเนินการประวิงเวลาเป็นการต่อรองเรื่องคดีต่างๆ ซึ่งไม่ใช่ข้อต่อรองปกติ จากการทำเหมืองทองไม่กี่พันไร่ จะกลายเป็นพื้นที่ไม่รู้กี่หมื่นไร่ เพราะเรื่องดังกล่าวทำให้เกิดข้อเรียกร้องมากมาย เป็นความเสียหายของประเทศที่บานปลาย ทั้งนี้เอกสารที่นำมาแสดงชี้ให้เห็นชัดเจนว่าไทยจะแพ้คดีอย่างแน่นอน ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีไม่เคยตอบคำถามเรื่องนี้แม้แต่ครั้งเดียว และหลังจากจบการอภิปรายจะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) เพื่อตรวจสอบเรื่องนี้ เชื่อว่าจะทำให้นายกรัฐมสตรีย้ายไปอยู่บ้านใหม่ที่เรียกว่าเรือนจำได้ และหากสัปดาห์หน้ายังเห็นพล.อ.ประยุทธ์ นั่งหัวโต๊ะคณะรัฐมนตรีอก จะยื่นฟ้องรัฐมนตรีคนอื่นๆ ด้วย

‘ไชยา พรหมา’ อัดโครงการท่อส่งน้ำอีอีซี ไม่โปร่งใสหวั่นทำนักลงทุนหาย

นายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย อภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในประเด็นโครงการโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ว่าไม่มีความโปร่งใส โดยพบพิรุธในเรื่องของการสั่งยกเลิกบริษัทรับประมูลท่อส่งน้ำโครงการ ซึ่งมีบางบริษัทที่พบว่าผู้บริหาร เรียนอยู่ในหลักสูตรที่เป็นคอนเนคชั่น จึงตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องตัวเองหรือไม่  อย่างไรก็ตามจากปัญหาที่เกิดขึ้นหากเป็นนักลงทุนเมื่อเห็นปัญหาแล้ว จะมาลงทุนหรือไม่ ทั้งนี้อยากชี้ให้เห็นว่านายกรัฐมนตรี ไม่เหมาะสมกับการบริหารประเทศได้ เพราะไม่สามารถปกป้องผลประโยชน์ของประเทศไทย ไม่ฟังคำทักท้วงใดๆ กำลังพาประเทศเดินถอยหลัง การบริหารงาน 8 ปีเพียงพอแล้ว สำรวจตัวเองหรือไม่ประชาชนรวยขึ้นหรือจนลง

นายไชยา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีทางเลือกสามทางคือ ลาออก ทางที่สองหากอยู่ต่อ สุดท้ายถูกตีความเรื่องการดำรงตำแหน่งเกิน 8 ปี สุดท้ายไปต่อไปไม่ได้ และทางที่สามหากไม่ฟังเสียงของประชาชนให้ดูตัวอย่างประเทศศรีลังกา สุดท้ายต้องพ่ายแพ้ต่อพลังของประชาชน ต้องการมีจุดจบแบบนั้นหรือไม่ ยืนยันไม่ได้โกรธแค้นส่วนตัวยืนบนรักษาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่อาจปล่อยผ่านซ้ำเติมประชาชนอีกต่อไป ไม่อาจให้ความไว้วางใจนายกรัฐมนตรีให้บริหารประเทศได้อีกต่อไป

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง
เพื่อไทยเปิดเอกสารลับเหมืองทองอัครา แฉมีไอ้โม่งรับคำสั่งคุมเบื้องหลัง เตรียมร้องป.ป.ช.สอบต่อมั่นใจเอาผิดได้