‘จุลพันธ์’ แนะนายกฯ ยุติบทบาททางการเมือง ทำคนไทยเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ

‘จุลพันธ์’ แนะนายกฯ ยุติบทบาททางการเมือง ทำคนไทยเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ

การเมือง

‘จุลพันธ์’ มอง ‘ประยุทธ์’ ทำคนไทยเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ ก่อหนี้ให้ประเทศ 8 ปี ค่าครองชีพสูงขึ้น ความเหลื่อมล้ำสูง ทุจริตคอร์รัปชันทุกด้าน แนะยุติบทบาททางการเมือง

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ช่วงหนึ่งว่าตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ได้อภิปรายทั่วไปและอภิปรายไม่ไว้วางใจรวม 7 ครั้ง จนเดินทางมาสู่วันนี้ (15 ก.พ. 2566) นับเป็นครั้งที่ 8 ค่อนข้างรู้สึกเอือมระอากับความดื้อดึงของรัฐบาลชุดนี้ที่ไม่ฟังเสียงสะท้อนของประชาชน ผิดหวังกับการบริหารงานที่ผิดพลาดจนเกิดความล้มเหลว เห็นได้ชัดจากภาคประชาชนได้รับความเดือดร้อนทนทุกข์กับรัฐบาลที่ไม่มีความสามารถในการบริหารเศรษฐกิจ ดังที่สื่อทำเนียบฯ ให้ฉายา ‘หน้ากากคนดี’ ที่แม้จะบอกว่าเป็นคนดีมาแก้ไขปัญหา สุดท้ายกลับล้มเหลวทุกมิติ

นายจุลพันธ์ กล่าวต่ออีกว่า แม้ประเทศไทยมีต้นทุนสูงกว่าประเทศอื่น ทั้งด้านทรัพยากรธรรมชาติ, ภูมิศาสตร์, ศักยภาพประชาชน ไปจนถึงระบบสาธารณสุข พร้อมตั้งคำถามว่า เหตุใดเศรษฐกิจประเทศไทยไม่สามารถแสดงศักยภาพออกมาได้เลย อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยต่ำที่สุดในอาเซียนในรอบ 7-8 ปีที่ผ่านมา ต่างประเทศก็ไม่สนใจการค้าการลงทุนในประเทศไทย สินค้าเกษตรไม่สามารถส่งออกไปสู้ตลาดโลกได้ เหตุใดคนไทยยังเดือดร้อน

“ทำไมคนไทยเลือกความสงบจบที่ลุงตู่ แล้วเศรษฐกิจไทยถึงสงบเงียบเป็นป่าช้าขนาดนี้ ทำไมเสือตัวที่ห้าอย่างเรา วันนี้เป็นคนป่วยของภูมิภาค เป็นประเทศที่ไม่มีใครมองเห็น ทำไมคนรุ่นใหม่จำนวนมากตัดสินใจย้ายถิ่นฐานไปหาอนาคตใหม่นอกประเทศไทย ถามคนหนึ่งก็อาจจะหงุดหงิด ถามอีกคนหนึ่งก็อาจจะไม่รู้ พอมาทบทวนก็พบว่าปัญหาเกิดจากรัฐบาลของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ความพังพินาศทางเศรษฐกิจตลอด 8 ปี เราควรไปต่อ หรือพอแค่นี้” นายจุลพันธ์ กล่าว

นายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นรัฐบาลที่ไม่รู้จักหารายได้ โดยก่อหนี้ตลอด 8 ปี สูงกว่ารัฐบาลที่ผ่านมาทั้งหมดรวมกัน ถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 10 ล้านล้านบาท หนี้สาธารณะสูงกว่า 60% ของ GDP จึงทำให้คนไทยกำลังเข้าสู่วัยเกษียณพร้อมกับหนี้ก้อนโต “วันนี้ประชาชนไม่เชื่อในกระบวนการตรวจสอบขององค์กรอิสระ วันนี้เขาหวังพึ่งบริการคุณชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ออกมาแฉกระบวนการทุจริตคอร์รัปชันและความเน่าเฟะของประเทศไทยภายใต้การบริหารของ พล.อ.ประยุทธ์

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ขอเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ ควรพิจารณาตัวเองและยุติบทบาททางการเมืองได้แล้ว เพราะได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติ โดยเฉพาะเศรษฐกิจของประเทศไทย และพล.อ.ประยุทธ์ ควรเรียนรู้จากพรรคการเมืองซึ่งมีประสบการณ์ในการบริหารเศรษฐกิจของประเทศจนประสบความสำเร็จ นโยบายที่พรรคเพื่อไทยได้นำเสนอต่อสังคมไปแล้ว ทุกนโยบายทำได้จริง แล้วจะแก้ไขปัญหาต่อพี่น้องประชาชนได้ อย่างหลักคิดของพรรคเพื่อไทยที่ว่า สร้างรายได้ใหม่ สร้างชีวิตใหม่ และสร้างโอกาสใหม่

“ผมไม่คิด ผมไม่เชื่อว่า ท่านจะรับฟังที่ผมแนะนำไปหรอก เพราะท่านออกอาการยื้ออยู่ต่อ ท่านอยู่ไปเลยเหลือเวลาอีกเดือนเศษๆ แต่ประชาชนเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ที่มืดมิด ประชาชนจะเข้าคูหาแล้วฉีกหน้ากากคนดีของท่านออก ระบอบประชาธิปไตยจะให้อำนาจประชาชน แล้วประชาชนจะล้างแค้นท่าน เวลาของท่านกำลังจะหมดลง ท่านนับถอยหลังได้เลย” นายจุลพันธ์ กล่าว

นายจุลพันธ์ กล่าวถึงรัฐบาลชุดนี้อีกว่า ในยุค พล.อ.ประยุทธ์ เกิดความเหลื่อมล้ำทวีคูณ ซึ่ง 90% ของคนไทยมีเงินในบัญชีไม่ถึง 50,000 บาท แต่มีคน 50 มีทรัพย์สินขั้นต่ำ 20,000 ล้าน คนที่รวยที่สุดมีทรัพย์สิน 1ล้านล้านบาท ช่องว่างห่างกันเกินไป คนไทยในยุคของพล.อ.ประยุทธ์ ความเหลื่อมล้ำสูงที่สุดในโลก ขีดเส้นใต้พันครั้งยุคพล.อ.ประยุทธ์ สูงที่สุดในโลก

การทุจริตคอร์รัปชันประชาชนเห็นการทุจริตทุกด้านไม่ว่าจะเป็น กรมป่าไม้, กรมอุทยานฯ, งบกลางฯ, ทุนจีนสีเทา, ตำรวจรีดไถประชาชน, บ่อนเถื่อน, เงินกู้เถื่อน, ยาเสพติดท่วมถนน, ทหารเอาเครื่องบนรบไปใช้ส่วนตัว, บริษัทลูกหลานนายกฯ ได้รับงานราชการใหญ่โต, ทุจริตเครื่องราชอิสริยาภรณ์ รัฐบาลนี้แม้เครื่องราชอิสริยาภรณ์ท่านยังปล่อยให้มีการทุจริต ชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลชุด พล.อ.ประยุทธ์ ล้มเหลวไร้ความรับผิดชอบแต่ดูจะโกงอย่างเป็นระบบและช่วยกันปกปิดได้ดีขึ้น

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง