‘คำนูณ’ ระบุวิธีไม่แสดงตนเป็นองค์ประชุมประวัติศาสตร์ไม่เคยมีใครทำโจ่งแจ้ง ขอให้ทบทวนหน้าที่ส.ส. หวั่นทำองค์ประชุมล่มส่อขัดจริยธรรม ด้าน ‘ครูหยุย’ เชื่อ ส.ว.ไม่ทำประชุมล่ม ขอ ส.ส. มาให้ครบกฎหมายลูกผ่านแน่
นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวถึงแนวทางการพิจารณา ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ในวันที่ 10 ส.ค.นี้ ว่า ขณะนี้ยังต้องรอการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.กำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. …. ซึ่งเป็นร่างกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูปที่ยังเหลือการพิจารณาอีก 4-5 มาตรา หากผ่านบังคับใช้ได้ก็จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ส่วนร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.จะเดินหน้าไปได้อย่างไรหรือไม่ ต้องยอมรับความจริงว่า ขณะนี้เป็นสถานการณ์พิเศษ ก่อนหน้านี้การไม่แสดงตนเป็นองค์ประชุมก็เป็นมาตรการหนึ่งที่สมาชิกทุกฝ่ายเคยใช้กันมา แต่ไม่เคยมีครั้งใดที่ยอมรับกันอย่างเปิดเผยว่าการไม่แสดงตนเป็นองค์ประชุมเป็นความจงใจและเป็นกลยุทธ์ในการต่อสู้ทางการเมือง ทั้งนี้ตนเคารพการแสดงความเห็น แต่ตนเห็นต่างที่จะใช้วิธีดังกล่าวเพราะหากเห็นว่ากฎหมายไม่ถูกต้องยังมีกระบวนการหลังจากวาระ 3 อีก2แนวทาง คือ 1. กกต.ยังจะต้องให้ความเห็นกลับมายังรัฐสภาซึ่งจะต้องตัดสินใจอีกครั้งหนึ่ง และกรณีที่กกต.เห็นต่างก็อาจจะโหวตไปตามการแก้ไขของกกต.ได้ 2.ช่วงก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ยังสามารถยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญซึ่งจะเห็นว่ามีขั้นตอนตามปกติที่บัญญัติไว้ถึง 2 ช่องทาง
“จริงอยู่ที่ว่าหากไม่แล้วเสร็จภายใน 180 วัน จะถือว่ารัฐสภาให้ความเห็นชอบกับร่างฉบับที่ ครม.เสนอ แม้จะเป็นหนทางที่สั้นที่สุดและได้ผลและได้ผลดีที่สุด โดยไม่ต้องเกรงอะไรทั้งสิ้น แต่เราควรจะต้องชั่งน้ำหนักเทียบกับความรู้สึกประชาชนด้วย ซึ่งผมคิดว่า ประชาชนส่วนใหญ่มีความเชื่อว่าหน้าที่พื้นฐานของสมาชิกรัฐสภา คือการเข้าร่วมประชุมพิจารณาร่างกฎหมาย และทำตามระเบียบวาระ” นายคำนูณ กล่าว
เมื่อถามว่า หากในการประชุมร่วมรัฐสภาวันที่ 10 ส.ค. องค์ประชุมล่มจะทำให้ประชาชนผิดหวังต่อการทำหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาหรือไม่นั้น นายคำนูณ กล่าวว่า หลายปีที่ผ่านมาเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชนต่อ ส.ส. และ ส.ว.มีประเด็นมาโดยตลอด ครั้งนี้หากไม่ครบองค์ประชุม ไม่ว่าขั้นตอนใด ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ตนเชื่อว่าประชาชนจำนวนหนึ่ง ย่อมจะไม่เข้าใจ และไม่เห็นด้วยกับการกระทำของสมาชิกรัฐสภาแน่นอน จึงเป็นงานหนักที่สมาชิกรัฐสภาจะต้องชี้แจงและเร่งกู้ภาพลักษณ์ เพื่อความวัฒนาถาวรของระบบรัฐสภาต่อไป
ส่วนกรณีประชุมล่มโดยมีเจตนา และไม่มีเหตุผลในการเข้าประชุมตามปกติจะต้องมีบทลงโทษอะไรหรือไม่ นายคำนูณ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าอาจจะมีการยื่นคำร้องทั้งประเด็นการผิดจริยธรรม ซึ่งก็ไม่เคยมีคดีตัวอย่างมาก่อนว่าการไม่เข้าร่วมประชุมจะถึงขั้นผิดจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ อย่าลืมว่าในขณะนี้รัฐธรรมนูญปี 2560 มีมาตรฐานทางจริยธรรมที่องค์กรอิสระได้ตั้งขึ้นมาเพื่อใช้บังคับกับสมาชิกรัฐสภาด้วย เป็นมาตรการการพิจารณาที่ค่อนข้างสั้น ซึ่งก็มีสมาชิกสภาฯโดนไปแล้ว 1 ราย แต่เป็นคนละเหตุผลและเหตุการณ์ หากมีสมาชิกรัฐสภาไม่เข้าร่วมประชุมจริงในวันพรุ่งนี้ แต่ละคนคงมีเหตุผลในแต่ละกรณีที่แตกต่างกันไป หากยื่นใบลาจะไม่ถือว่าเป็นการขาดประชุม นอกจากนี้เชื่อว่าการประชุมร่วมรัฐสภา วันที่ 10 ส.ค.นี้ ยังมีเหตุแทรกซ้อนเข้ามาซึ่ง ส.ส.ก็พยายามขอให้ไม่มีประชุมในวันที่ 10 ส.ค.อยู่แล้ว แต่ต้องเข้าใจธรรมชาติของ ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ที่มีภารกิจในพื้นที่ต้องเข้าร่วมงานวันกำนันผู้ใหญ่บ้าน การมีเหตุผลในใบลาของแต่ละคนก็คงจะแตกต่างกันไป ดังนั้นจะมาพิจารณาว่าผิดจริยธรรมหรือไม่ ตนคิดว่าคงจะต้องพิจารณาเป็นกรณีไป
ด้านนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ส.ว. กล่าวยืนยันว่า ส.ว.ทุกคนพร้อมเข้าร่วมประชุม และอยู่ประชุมจนเลิกเกิน 200 คนจาก 250 คนแน่นอน ส่วนองค์ประชุมจะครบหรือไม่นั้น อยู่ที่ตัวแปรคือส.ส.500 คน ที่ต้องมาแค่ 1 ใน 3 ก็จะครบองค์ประชุมแล้ว
“ส.ว.ไม่ล่มแน่ ส.ว.เต็มที่ 200 กว่าอยู่แล้ว เรามีความตระหนักตลอด ตัวเลขเราไม่เคยต่ำกว่าครึ่งหนึ่งเลย วุฒิสภาไม่เกี่ยวกับใคร เพราะวุฒิสภาไม่มีสิทธิ์ไปลงสมัครรับเลือกตั้ง ต่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ เรายังอยู่ในวาระการปฏิบัติหน้าที่อยู่ ไม่ได้เกี่ยวกับใคร ดังนั้นจะไม่เล่นเกมกับใครเด็ดขาด เราก็เดินไปตามภาระหน้าที่ของเรา ยืนยันแทนสมาชิกได้เลย ผมค่อนข้างเชื่อมั่นในการผ่าน ร่างพ.ร.ป.ฉบับนีเ ไม่ใช่สิ่งที่ยาก ไม่ต้องห่วงตรงนั้น กังวลเพียงว่า ขอให้ ส.ส. จะมาครบหรือเปล่า แต่ถ้าการประชุมวันที่ 10 ส.ค.เกิดอุบัติเหตุ ก็กลับไปสู่ร่างแรกที่เข้ามาใช้แทน” นายวัลลภ กล่าว










