‘นิกร’ มั่นใจกฎหมายลูกเลือกตั้ง 2 ฉบับ เข้าโหมดเลือกตั้ง เชื่อนายกฯ ยุบสภาหลังอภิปราย

‘นิกร’ มั่นใจกฎหมายลูกเลือกตั้ง 2 ฉบับ เข้าโหมดเลือกตั้ง เชื่อนายกฯ ยุบสภาหลังอภิปราย

การเมือง

‘นิกร’ มั่นใจกฎหมายลูก 2 ฉบับ ทำการเมืองคลี่คลายเข้าสู่โหมดเลือกตั้งเต็มรูป จ่อถกกรรมการยุทธศาสตร์-ประชาสัมพันธ์ นำนโยบาย ‘ว้าวไทยแลนด์’ เผยชาติไทยพัฒนา ส่งปาร์ตี้ลิสต์ครบ 100 ชื่อ เชื่อนายกฯ ยุบสภาหลังศึกซักฟอก 

นายนิกร จำนง ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ในฐานะอดีตเลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง เปิดเผยว่า เมื่อกฎหมายทั้ง 2 ฉบับมีผลบังคับใช้แล้ว ถือว่าการเมืองไทยจะเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งอย่างเต็มรูป ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สามารถดำเนินการรับฟังความเห็นพรรคการเมืองเป็นครั้งสุดท้าย แล้วออกประกาศเขตเลือกตั้ง ทั้ง 400 เขตได้ในเวลาไม่ช้านี้ ผู้ที่จะสมัครรับเลือกตั้งสามารถเดินหาเสียงในเขตที่ประสงค์จะลงสมัครได้อย่างเต็มที่ 

นายนิกร กล่าวว่า ต่อจากนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คงอาศัยอำนาจตามกฎหมายนี้ ทยอยออกประกาศของ กกต. ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งที่มีเป็นจำนวนมากได้เลย ซึ่งเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาใด เพราะทราบมาว่าได้เตรียมการรอกันอยู่ตามสมควรแล้ว ตอนนี้กกต. คงรอแต่วันที่นายกรัฐมนตรีจะประกาศยุบสภาฯ ตนเชื่อว่าสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาภายหลังจากการอภิปรายทั่วไป ตามมาตรา 152 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 15-16 ก.พ. 66 จบสิ้นลงก่อน เพราะน่าจะถือว่าจะเป็น Last Battle หรือ การต่อสู้ฉากสุดท้ายของสภาชุดที่ 25 นี้ จากนั้นภาวะของสภาฯ ช่วงปลายสมัยที่เกิดการล่มบ่อยๆ น่าจะเป็นตัวเร่งให้มีการยุบสภาเกิดขึ้นก่อนปิดสมัยประชุมในวันที่ 28 ก.พ. 66 ได้เหมือนกัน

นายนิกร กล่าวว่า สำหรับพรรคการเมืองนั้นเมื่อ พ.ร.ป.พรรคการเมืองฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ จะทำให้คลี่คลายปัญหาหนักอกเดิมของการต้องมีตัวแทนประจำจังหวัดทุกเขตเลือกตั้งก็สามารถใช้ตัวแทนประจำจังหวัดเพียงแห่งเดียวประชุม เพื่อลงมติเห็นชอบรายชื่อผู้สมัครของทุกเขต ที่กรรมการสรรหาของพรรคส่งมาให้ มีมติเพียงแค่เห็นชอบเท่านั้น ไม่ต้องลงคะแนนเลือกตั้งเบื้องต้นก่อนตามกฎหมายเดิม ซึ่งบัดนี้กรรมการสรรหาของแต่ละพรรคสามารถดำเนินการสรรหาตามกฎหมายใหม่ได้ จึงถือว่าปัญหาทางด้านกฎหมายของพรรคการเมืองหมดไป พร้อมเข้าสู่การเลือกตั้งอย่างเต็มตัว ส่วนใครจะประสบความสำเร็จเพียงใดต้องขึ้นอยู่กับประชาชนผู้ที่จะไปลงคะแนนให้

นายนิกร กล่าวต่อว่า ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคได้เรียกประชุมคณะกรรมการในวันที่ 31 ม.ค.นี้ ร่วมกับคณะกรรมการประชาสัมพันธ์พรรค ชทพ. ที่มี นายเสมอกัน เที่ยงธรรม เป็นประธาน เพื่อสรุปรายละเอียดของนโยบายแต่ละด้าน และจัดทำเป็นข้อมูลประกอบให้ผู้สมัครของพรรคได้นำไป นำเสนอต่อประชาชนในเขตเลือกตั้งของตัวเอง และให้เป็นข้อมูลเชิงนโยบายสำหรับผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ ที่ทางพรรค ชทพ. จะส่งให้ครบทั้ง 100 รายชื่อ และขณะนี้ได้ทยอยกันมาแสดงเจตจำนงกันหลายรายชื่อแล้ว โดยแม้ว่าลำดับในการจะได้เป็นส.ส.จะไปไม่ถึงทั้ง 100 รายชื่อก็ตาม แต่พรรคต้องการบุคคลที่เห็นด้วยกับนโยบายของพรรคเข้ามาร่วมทำงานทางการเมือง ประกาศตัวให้คนทั้งประเทศได้รับรู้ และภายหลังการเลือกตั้งจะได้เป็นแก่นแกนทางการเมือง ทั้งทางลึกในเชิงนโยบาย และทางกว้างในเชิงพื้นที่ ได้สานต่อนำนโยบายของพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ประกาศไว้นำไปสู่รูปธรรมให้ประชาชน

นายนิกร กล่าวด้วย พรรคมีประสบการณ์ในการเลือกตั้งมายาวนาน จึงมีความพร้อมในการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นอย่างมาก ประกอบกับการเลือกตั้งในครั้งนี้ ทางพรรค ชทพ. ไม่มีแรงกดดันใดๆ ที่จะต้องไปแข่งขันกับใครในการแย่งตำแหน่งทางการเมืองหลังเลือกตั้ง แต่เราต้องแข่งกับตนเองให้ชนะจากที่เราได้ทำไว้ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาให้ได้มากที่สุด ภายใต้การนำของนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค ชทพ. โดยทางพรรค ชทพ. เชื่อว่าด้วยศักยภาพระดับอินเตอร์ทางด้านการสื่อสาร ของนายวราวุธ และนโยบาย “ว้าว ไทยแลนด์” ที่ได้ประกาศนโยบายไว้ 10 ด้าน มีเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ต่อคนไทยรุ่นปัจจุบันนี้และที่เชื่อมต่อไปถึงลูกหลานไทยรุ่นหน้า จะได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากพี่น้องประชาชนคนไทยอย่างแน่นอน

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง