ครม.ไฟเขียวขยายเวลาลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลจาก 20 พ.ย.นี้ ออกไปอีก 2 เดือน คาดรัฐจะสูญเสียรายได้ประมาณ 20,000 ล้านบาท
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล จากที่จะหมดอายุวันที่ 20 พ.ย.65 ออกไปอีก โดยพยายามจะตรึงราคาให้มากที่สุด เพราะต้องใช้เงินสูงมากทั้งเรื่องไฟฟ้าและพลังงาน ซึ่งตนก็ไม่อยากสร้างภาระงบประมาณต่อๆไป แต่พยายามทำให้ดีที่สุด
ส่วนแผนรับมือราคาพลังงานในช่วงฤดูหนาว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องดูต้นทุนราคาพลังงาน ต้นทุนการผลิต
“กำลังดูว่า ภาคผลิตพลังงานมีหลายส่วนด้วยกัน จากน้ำมัน แก๊สก็มี จากถ่านหินก็มี หลายอย่างพยายามปิดโรงงาน แต่ตอนนี้่ต้องใช้ไปก่อน ขณะเดียวกันต้องดูเรื่องซีโอทู โลกร้อนด้วย คิดละเอียด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ครม.มีมติเห็นชอบขยายเวลาปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท ออกไปอีก 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย.65 ถึง 20 ม.ค.66 เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนและภาคธุรกิจ ภายใต้สถานการณ์ราคาพลังงานที่ยังคงผันผวนทั่วโลก
ขณะที่นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ขยายระยะเวลาการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลและน้ำมันอื่นๆที่คล้ายกัน ปรับลดประมาณ 5 บาทต่อลิตร เป็นระยะเวลา 2 เดือนตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 จนถึงวันที่ 20 มกราคม 2566
“กระทรวงการคลังได้จัดประมาณการการสูญเสียรายได้และประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ จากการจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน ลดลงประมาณ 10,000 ล้านบาท/เดือน โดยการดำเนินการมาตรการภาษีในครั้งนี้เป็นระยะเวลาประมาณ 2 เดือนจึงคาดว่ารัฐจะสูญเสียรายได้ประมาณ 20,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม จะเป็นการช่วยรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศไม่ให้ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจนกระทบต่อค่าของชีพของประชาชนซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศได้” นายอนุชา กล่าว










