‘ไพบูลย์’ เผยพรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าสู้ศึกเลือกตั้ง พร้อมเป็นรัฐบาล ชู ‘พล.อ.ประวิตร’ นั่งนายกฯ น้อมรับสูตรหาร 100 ตามคำวินิจฉัยศาลรธน.
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ให้สัมภาษณ์กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ว่า เป็นไปตามแผนเดิม ไม่มีปัญหาอะไรเนื่องจากพรรคพปชร.เป็นผู้สนับสนุนกฎหมายเลือกตั้งฉบับนี้อยู่แล้ว เมื่อไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ถือเป็นเรื่องดี เชื่ออยู่แล้วว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ศาลวินิจฉัยเช่นนี้ก็ทำให้ข้อโต้แย้งนี้จบไปและการเลือกตั้งจะได้เดินหน้า
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคพปชร.จะได้เปรียบในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า การเลือกตั้งไม่ใช่ได้เปรียบเสียเปรียบ กฎหมายเลือกตั้งที่ออกมาก็เดินหน้าไปตามรัฐธรรมนูญที่แก้ไขไปแล้ว ทำให้การเลือกตั้งเป็นไปตามระบบที่ถูกต้อง คือมีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เลือกคน เลือกพรรค คะแนนคำนวณแยกจากกัน เป็นเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่แก้ไขเพิ่มเติม
เมื่อถามย้ำว่า พรรคพปชร.วางแผนเตรียมการเลือกตั้ง หลังจากนี้อย่างไร นายไพบูลย์ กล่าวว่า เตรียมพร้อมอยู่แล้ว ทั้งเรื่องผู้สมัครที่จะลงเลือกตั้ง 400 เขต ส่วนนโยบาย ในฐานะที่ตนเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายพรรค กำลังประชุมกับคณะกรรมการและคณะทำงาน เพื่อให้มีนโยบายที่ยึดกฎ 3 ข้อ คือ 1.ทำได้จริง 2.ถูกใจประชาชนทุกกลุ่ม 3.ต้องถูกต้องตามกฎหมาย มั่นใจว่านโยบายครั้งนี้จะได้รับความถูกใจจากประชาชนแน่นอนเพราะเราพร้อมทุกด้านในการเข้าสู่การเลือกตั้ง เมื่อดูบริบทการเมืองแล้ว เชื่อว่าพรรค พปชร.เป็นพรรครัฐบาลแน่นอน และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. จะเป็นผู้นำจัดตั้งรัฐบาล
เมื่อถามว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จะเป็นใคร นายไพบูลย์ กล่าวว่า ส่วนตัวเสนอพล.อ.ประวิตร เป็นแคนดิเดตนายกฯ คนเดียว เพราะเชื่อว่ามีความเหมาะสมจากการนั่งรักษาการนายกฯ สามารถประสานงานได้กับทุกฝ่าย ให้ฝ่ายต่างๆ มาร่วมทำงานกัน และเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ไม่ขัดแย้งกับฝ่ายใด จึงมั่นใจว่าจะเป็นผู้นำจัดตั้งรัฐบาลแน่นอน
โฆษก พปชร. น้อมรับสูตรหาร 100 ตามคำวินิจฉัยศาล รธน. พร้อมสู้ศึกส่งผู้สมัครเลือกตั้งทั่วประเทศจุดมุ่งหมายทำเพื่อประชาชน
ด้านนายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผย ถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 7 ต่อ 2 วินิจฉัยร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ว่า การดำเนินการในขั้นตอนต่อจากนี้ไป ศาลรัฐธรรมนูญจะส่งคำสั่งไปยังประธานรัฐสภา เพื่อเสนอต่อรัฐบาลนำขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งถือว่าคำวินิจฉัยที่ออกมา ทำให้การเมืองไทยสามารถเดินหน้าต่อไปได้ตามไทม์ไลน์ การเลือกตั้งจะมีในปี 66 โดยไม่ต้องสะดุด และต้องกลับมาแก้ไขกฎหมายกันใหม่อย่างที่หลายฝ่ายแสดงความกังวล
“ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ จะใช้สูตรหาร 100 หรือสูตรหาร 500 ก็ไม่มีปัญหา แต่สิ่งที่พรรคพลังประชารัฐคำนึงถึงคือ กฎหมายฉบับดังกล่าว จะต้องบังคับใช้ให้ทันเลือกตั้งครั้งหน้าในปี 2566 ซึ่งคือหลักประกันแรก เพื่อไม่ให้เกิดภาวะสุญญากาศ และไม่ให้เกิดความซับซ้อนแก่ประชาชน นั่นคือจุดยืนของพรรคพลังประชารัฐ และวันนี้ก็ได้ข้อสรุปแล้ว” นายอรรถกร กล่าว
นายอรรถกร กล่าวต่อว่า พรรคพลังประชารัฐจะเดินหน้าทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติต่อไป ไม่ว่าจะใช้กติกาใดในการเลือกตั้งก็ไม่สำคัญเท่ากับเมื่อเลือกตั้งเข้ามาแล้ว ผู้แทนที่เข้ามาทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริงหรือไม่ ตนเชื่อว่า สิ่งนี้คือสิ่งที่คนไทยทุกคนต้องการมากที่สุด
